เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับมาตรการตั้งด่านคัดกรองโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร ยังคงตั้งด่าน 12 จุด ตามปกติ และจะเพิ่มตามสถานีขนส่ง 3 แห่ง สายเหนือ สายใต้ และสายตะวันออก รวมทั้งสถานีรถไฟต่างๆ ด้วย เป็นการตรวจร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสาธารณสุข ที่ผ่านมาด่าน 12 แห่ง เป็นการป้องปราม และช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการคัดกรองบุคคลที่อาจเผยแพร่เชื้อโรคได้ ผลการปฏิบัติที่ผ่านมาก็ตรวจเจอผู้ที่อยู่ในข่ายกลุ่มเสี่ยง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อตรวจเจอสาธารณสุขประจำด่านมีกระบวนการในการปฏิบัติ
ส่วนการป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในด่าน มีการปรับปรุงค่อนข้างมาก โดยเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหน้ากากอนามัยให้ทุกด่านตรวจ และมีระบบการจัดสรรไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่ง ซึ่ง พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ผบก. ทุกจังหวัด และ ผบช.น. ประสานขอรับการจัดสรรมาเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ
พล.ต.ท.ปิยะกล่าวอีกว่า ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อให้การควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้มข้นมากขึ้น โดยชุดเคลื่อนที่เร็วนี้จะเน้นให้คำแนะนำประชาชนในการป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และตักเตือนผู้ที่เดินทางออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็น รวมทั้งเพิ่มความเข้มการตรวจตราป้องกันเหตุอาชญากรรม เน้นช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากการข่าวเริ่มพบบุคคลบางกลุ่มอาศัยจังหวะซ้ำเติมประชาชน เช่น มั่วสุมเสพยา จัดปาร์ตี้ และก่อเหตุชิงทรัพย์ และผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ
ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ที่มีการกำหนดช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน ตำรวจจะร่วมกับฝ่ายปกครองจัดชุดออกตรวจตรา โดยช่วงแรก จะใช้การตักเตือนและขอความร่วมมือ หากพบผู้ไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของแต่ละพื้นที่
