วันที่ 1 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,125.86 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,130.67 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,105.51 จุด ปรับลดลง 20.35 จุด หรือ 1.81% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,132.10 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,105.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 67,169.04 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,923.28 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 37.99 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,998.35 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,049.57 ล้านบาท โดยดัชนีบวกมากสุด 6.24 จุด ลบมากสุด 20.52 จุด
โดยนายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล. เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังผันผวน โดยปิดลบตามตลาดหุ้นโลกที่ปรับฐานลงมาแรง หลังจากที่ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังสูงกว่าปกติ ขณะที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ปรับลดเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) โลก รวมถึงจีดีพีไทยในกรณีเลวร้ายสุดคาดว่าติดลบ 5% จากกรณีพื้นฐานที่จะติดลบ 3% จากที่ก่อนหน้านี้หลายหน่วยงานได้ปรับลดจีดีพีไทยลง อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คาดว่าจีดีพีติดลบ 5.8% โดยตลาดต่างประเทศที่ลงแรง อาทิ ญี่ปุ่นลง 4.5% อินเดีย 4.5% เกาหลีใต้ 4.5%
“ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าลบและบวกขึ้นมาบ้างเล็กน้อย จากกองทุนเอสเอสเอฟที่เปิดตัวในวันแรกสนับสนุนให้หุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วงบ่ายตลาดหุ้นกลับเข้าสู่แดนลบ หลังจากที่กทม. สั่งปิดสวนสาธารณะและร้านค้าทุกประเภทในช่วงเวลา 24.00 น.-05.00 น. ทำให้นักลงทุนกังวลเทขายหุ้นออกมาบางส่วน สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ และรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่จะออกมาเพิ่มเติม ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่ปลอดภัยและให้ปันผลสูง ประเมินกรอบแนวรับที่ 1,075 จุด แนวต้านที่1,130 จุด” นายภราดรกล่าว