นายสุเทพ เตมานุวัตร์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน มีการพิจารณาตามโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทยแล้วไม่อนุญาตให้เปิดศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ หรือระบบสื่อสารในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเอไอเอสพร้อมสนับสนุนมาตรการดังกล่าว โดยจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการรวมตัวกันของประชาชน และสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายสุเทพกล่าวว่า ทั้งนี้ ปัจจุบันศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือของเอไอเอส ได้รับการพิจารณาผ่อนผันให้สามารถเปิดให้บริการแล้วประมาณ 51 จังหวัด โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการตามปกติ ได้แก่ อาคารเอไอเอส 1 และเอไอเอส 2 โดยมีผู้ใช้บริการรวมประมาณ 500-700 คนต่อวัน จากเดิมที่มีผู้ใช้บริการประมาณ 50-100 คนต่อวัน ซึ่งเอไอเอสได้มีมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (โซเชียล ดิสแทนซิ่ง) โดยให้ผู้ใช้บริการเว้นระยะห่างกัน 1-2 เมตร รวมถึงมีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับผู้ใช้บริการ
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริการด้านโทรคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว แต่ปัจจุบันยังมีอีกหลายบริการ อาทิ ซิมเสีย เปลี่ยนซิม มือถือหล่นแตก จ่ายค่าโทรศัพท์ รวมถึงการเปิดซิมใหม่ย้ายค่าย ที่ลูกค้าไม่สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้น ลูกค้าจึงจำเป็นต้องเดินทางเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผู้คนมีการทำงานจากที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮมมากขึ้น ทำให้การเปิดศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือบางสาขาที่มีลูกค้าเข้ารับบริการลดลงต้องแบ่งรับภาระขาดทุนด้วย แต่เราก็ต้องเปิดให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเรา” นายสุเทพกล่าว