“อนุทิน” เป็นปลื้ม นายกฯ เห็นชอบบรรจุข้าราชการ สธ. 45,684 ตำแหน่ง สู้โควิด-19
จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นชอบในหลักการบรรจุบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นข้าราชการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 45,684 ตำแหน่ง สร้างขวัญกำลังใจบุคลากร ช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด – 19 จะนำเข้าครม.ในวันอังคารนี้
โควิด-19 เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นชอบในหลักการบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม จำนวน 45,684 คน แก่พนักงานราชการ พนักงานสธ. และลูกจ้างชั่วคราวสธ. ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ตามที่ สธ.เสนอ เป็นการปรับสถานะให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งเป็นวิชาชีพที่มีทักษะ ความชำนาญ เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่สามารถทดแทนด้วยเครื่องจักรได้ เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพ รักษาไว้ให้อยู่ในระบบ เพราะการเป็นข้าราชการทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ทดแทนทางเลือกที่จะไปทำงานในภาคส่วนอื่น โดย ครม.มอบหมายให้ สธ. หารือกับ สำนักงานข้าราชการพลเรือน (กพ.) และสำนักงานพัฒนาระบบข้าราชการ (กพร.) และทำเรื่องเสนอครม. ให้อนุมัติอีกครั้งในวันที่ 7 เมษายนนี้ เพื่อนำสู่การปฏิบัติโดยเร็ว
“เมื่อเราผ่านพ้น โควิด-19 นี้ไปได้ เราจะมีบุคลากรสาธารณสุขที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ความพร้อม และศักยภาพในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ในอนาคตและที่สำคัญที่สุด เรากำลังสร้างฐานที่มั่นคงทางการสาธารณสุขที่พร้อมให้การดูแลสังคมผู้สูงอายุ และเป็นประเทศที่มีระบบการสาธารณสุขที่เข้มแข็งในลำดับต้นๆ ของโลก” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สธ.ใช้เงินบำรุงของแต่ละโรงพยาบาลในการจ้างงาน ซึ่งไม่มีความมั่นคง ทำให้มีการลาออกเมื่อมีข้อเสนอที่ดีกว่าจากภาคส่วนอื่นๆ ทั้งที่ต้นทุนในการฝึกฝนทักษะ ภาครัฐเป็นผู้ลงทุนไว้ หากบุคลากรเหล่านี้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการจะสามารถนำเงินบำรุงโรงพยาบาลไปพัฒนาหน่วยบริการตามภารกิจหลักต่อไป
สำหรับการบรรจุบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 กลุ่มที่ 1 บุคลากรที่ให้บริการในสถานการณ์โรคระบาดโควิด -19 รวม 31,296 คน แบ่งเป็น แพทย์ 277 คน พยาบาลวิชาชีพ 13,552 คน พยาบาลเทคนิค 55 คน นักรังสีการแพทย์ 152 คน เจ้าพนักงานรังสีการแพทย์ 12 คน นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก47 คน นักเทคนิคการแพทย์ 1,437 คน เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ 26 คน นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ 749 คน นักวิชาการสาธารณสุข 10,651 คน เจ้าพนักงานสาธารณสุข 2,372 คน เภสัชกร 563 คน เจ้าพนักงานเภสัชกรรม 1,403 คน กลุ่มที่ 2 บุคลากรที่สนับสนุนการให้บริการในสถานการณ์โควิด-19 รวม 6,809 คน แบ่งเป็นนักจิตวิทยาคลินิก 77 คน นักจิตวิทยา 325 คน นักเทคโนโลยีสารสนเทศ 51 คน นักวิชาการคอมพิวเตอร์ 2,123 คน นักกายภาพบำบัด 1,560 คน เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข 1,657 คน วิศวกร (ชีวการแพทย์)19 คน นักวิชาการอาหารและยา 14 คน นักโภชนาการ 688 คน และโภชนากร 203 คน ส่วนอีกกลุ่มเป็นการขอตำแหน่งเพิ่มใหม่ เพื่อบรรจุผู้สำเร็จการศึกษาในปี 2563 รวม 7,229 คน แบ่งเป็นแพทย์ 2,157 คน พยาบาลวิชาชีพ 3,790 คน นักวิชาการสาธารณสุข 647 คน และทันตแพทย์ 635 คน
