บทนำ : เตะฝุ่นตลบ

คำเตือนที่น่าสนใจจากนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า ผลจากไวรัสโควิด-19 ระบาด ในเดือนมีนาคมถึงเมษายน จะมีคนตกงานไม่น้อยกว่า 6.5 ล้านคน

บทนำ : เตะฝุ่นตลบ

คำเตือนที่น่าสนใจจากนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า ผลจากไวรัสโควิด-19 ระบาด ในเดือนมีนาคมถึงเมษายน จะมีคนตกงานไม่น้อยกว่า 6.5 ล้านคน จากปกติสถิติคนว่างงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติสูงสุดไม่เกิน 5 แสนคน โดยถือว่าถ้าทำงาน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แม้ไม่ได้รับค่าจ้าง ถือว่าไม่ตกงาน ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำให้อัตราการว่างงานที่ภาครัฐประเมินอยู่ในระดับต่ำ เพราะแค่ถือจอบไปนา ไปสวน ถือว่ามีงานทำแล้ว

รองประธานสภาองค์การนายจ้างฯระบุอีกว่า ตัวเลขตกงาน 6.5 ล้านคน มาจากแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2.75 ล้านคน ลูกจ้างที่ถูกปิดกิจการโดยคำสั่งรัฐ เช่น ลูกจ้างในร้านค้า ร้านอาหาร ในห้าง ประมาณ 1 ล้านคน ร้านค้ารายย่อย 8.4 แสนคน แผงลอย 9 หมื่น ร้านนวดแผนโบราณ ร้านเสริมสวย 3.7 แสนคน ร้านอาหาร 2.1 แสนคน แรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ปิดชั่วคราวหลายแสนคน นอกจากนี้มีแรงงานเด็กจบใหม่ 5 แสนคน คนตกงานสะสม 4 แสนคน

นายธนิตชี้ว่าคนตกงานมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องรอดูว่าไวรัสโควิด-19 จะจบอย่างไร หากจบได้เร็วธุรกิจน่าจะฟื้นตัวได้เร็ว แต่ถ้าลากยาวการฟื้นตัวจะลำบากมากขึ้น ขณะนี้ 6 ค่ายรถยนต์ประกาศปิดโรงงาน 1 เดือน ถ้าไวรัสยังไม่จบ จะปิดต่อเนื่องยาวกว่า 1 เดือน กระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ พร้อมกับระบุว่าขณะนี้รัฐบาลเตรียมออกมาตรการเยียวยาระยะที่ 3 วงเงิน 1.6-1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งระยะที่ 1 และ 2 ใช้เงิน 5.258 แสนล้านบาท สินเชื่อกว่า 2 แสนล้าน แต่ธุรกิจรายเล็กยังเข้าไม่ถึง ธนาคารนำเสนอให้แต่รายใหญ่ เพราะกลัวเรื่องหนี้เสีย

การให้ความช่วยเหลือไปถึงผู้เดือดร้อนตัวจริง เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตัวเลขคนตกงานถึง 6.5 ล้านคน และน่าจะมากกว่า เพราะวิธีประเมินทำให้ตัวเลขต่ำกว่าความจริง เป็นอีกโจทย์หลักที่รัฐบาลต้องแก้ไข ด้วยการให้ธุรกิจทุกระดับเข้าถึงการช่วยเหลือจากรัฐ ที่ผ่านมา ประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐ เสียสละเสรีภาพและยอมทุกข์ร้อน เพื่อให้สังคมปลอดภัย รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหา และรีบแก้ไขความทุกข์ของประชาชนส่วนข้างมากโดยเร็ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image