“นครพนม” จับจริงเคสแรก “ลาว” ฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว ศาลสั่งจำคุกไม่รอ

ผวจ.นครพนม งัดกฎเหล็กสั่งปิดสะพานไทย-ลาว 3 งดเข้า-ออก ห้าม “ต่างด้าว” เข้า-ออกพื้นที่ จับดำเนินจริง

นครพนม- เมื่อวันที่ 6 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนคพรนม ยังคงเพิ่มความเข้มในการยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 หลังก่อนนี้มีคำสั่งให้มีการปิดธุรกิจกลุ่มเสี่ยงทุกประเภท รวมถึงการปิดด่านจุดผ่อนปรน ตามอำเภอชายแดน รวม 4 อำเภอ เหลือเพียงด่านถาวร คือ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่ง ที่ 3 นครพนม – คำม่วน ที่ยังอนุโลมให้แรงงานต่างด้าวชาวลาว เดินทางกลับประเทศ รวมถึง เปิดให้รถบรรทุกขนส่งสินค้าข้าม แต่ห้ามประชาชน นักท่องเที่ยว เข้า-ออก เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีการตรวจคัดกรอง ทุกรายที่มีการอนุโลมให้ข้าม เข้า ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ล่าสุด จังหวัดนครพนม โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีประกาศคำสั่งห้ามบุคคลต่างด้าว เข้ามาในพื้นที่ รวมถึงงดการอนุโลมการเดินทางเข้า-ออก บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่ง ที่ 3 นครพนม – คำม่วน ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2563 ส่วนรถบรรทุกสินค้า ยังสามารถเดินทางขนส่งระหว่างประเทศได้ แต่บุคคลที่ประจำรถ คนขับ พนักงานรถ หากมีการออกนอกประเทศ เกิน 5 ชั่วโมง หากเข้ามาจะต้องถูกเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพื่อควบคุมโรค พร้อมมีคำสั่งเด็ดขาด หากพบบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ จะมีการจับกุมดำเนินคดี ทันที นอกจากนี้ ในช่วงคำสั่งเคอร์ฟิวได้ประสานเจ้าหน้าที่ ทั้ง 12 อำเภอ ตั้งจุดตรวจสกัด คัดกรอง หากพบผู้ฝ่าฝืน จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มียกเว้น

Advertisement

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยถึงผลการดำเนินการทางคดี หลังมีการเพิ่มมาตรการเข้ม ตามคำสั่งรัฐบาล ในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด รวมถึงคำสั่ง เคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นวันแรก ทางจังหวัดนครพนม บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนท้องถิ่น แต่ยังพบผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดตั้งแต่วันแรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ มีการจับกุม ชาวไทย จำนวน 1 ราย พร้อมแรงงานต่างด้าว ชาวลาว จำนวน 5 ราย ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เพื่อเข้ามาในพื้นที่ หาทางข้ามไปยัง สปป.ลาว โดยตรวจสอบพบนั่งรถตู้โดยสาร มาบริเวณจุดตรวจคัดกรอง ถนนสกลนคร – นครพนม เขต ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ช่วง เวลา 23.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวอร์เคอร์ฟิว ตรวจสอบมีเอกสารหนังสือเดินทางถูกต้อง จึงได้จับกุมดำเนินคดี ในข้อหา ออกนอกเคหะสถานเวลา 22.00 น. – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตัวดำเนินคดี ส่งฟ้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ทางศาลจังหวัดนครพนม ได้พิจารณาตัดสิน เป็นกรณีแรกหลังคำสั่ง โดยศาลตัดสินจำคุก 1 เดือน แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 15 วัน อีกทั้งผู้ต้องหาไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน เปลี่ยนโทษจากจำคุก 15 วัน เป็นกักขัง 15 วัน ก่อนควบคุมตัวนำส่งไปกักขัง ที่เรือนจำกลางนครพนม หลังพ้นโทษ จะได้ มีการผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image