จับแล้วหนุ่มดริฟต์รถรอบหอนาฬิกาท้าเคอร์ฟิว สารภาพทำไปเพราะโกรธแฟน (คลิป)
เมื่อวันที่ 7 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีมีผู้พบเห็นผู้ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว (ป้ายแดง) ขับขี่วนไปวนมา หรือขับดริฟต์ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนบรรพปราการ เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ในเวลา 01.30 น.ของวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศไม่ให้ผู้คนออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพียง 1 วัน
ล่าสุด ทาง พ.อ.พศิน แสงคำ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.พนัส แก้วจินดา หน.กลุ่มงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินฯ บูรณาการร่วมกับตำรวจ ภ.จว.เชียงราย ควบคุมตัวนายกรีฑา อายุ 27 ปี ชาว ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย มาดำเนินคดีในข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ หลังตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ในคืนดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบหาตัวผู้กระทำการดังกล่าวและปรากฏว่าได้มีบิดาและญาติของนายกรีฑาได้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ด้วยดี ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ซึ่งนายกรีฑาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ได้นำรถของนายจ้างที่ใช้ขนเนื้อสดไปส่งที่ตลาดไปก่อเหตุ เพราะมีเรื่องทะเลาะกับแฟนสาวจึงมีอารมณ์โกรธ จึงได้ขับรถไปวนที่สี่แยกหอนาฬิกาดังกล่าวจำนวน 2 รอบ จากนั้นก็ไปส่งเนื้อสดที่ตลาดสดเทศบาล 1 เทศบาลนครเชียงราย ตามปกติ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ใน จ.เชียงราย พบว่าวันนี้ทางแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ทำการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ จ.เชียงราย จนหายจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วจำนวน 2 คน โดยทั้งคู่ได้รักษาอาการตามมาตรฐานเป็นเวลา 2-7 วัน จากนั้นเมื่อไม่มีไข้เกิน 48 ชั่วโมง หายใจไม่เกิน 20 ครั้งต่อนาที ออกซิเจนในเลือดเกิน 94% ในอากาศปกติ จึงพิจารณาให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อ 14 วัน และให้ใส่หน้ากากอนามัยต่อไปอีก 1 เดือน ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันของ จ.เชียงราย ลดลงจากเดิมจำนวน 9 ราย เหลือเพียงจำนวน 7 ราย โดยยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติมและไม่มีผู้รอผลตรวจรายใหม่ด้วย
ขณะที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ยังคงดำเนินมาตรการที่เข้มงวดทั้งปิดถนนเข้าสู่จังหวัดหลายสาย ตั้งจุดคัดกรองบนถนนสายหลักเพื่อตรวจสอบผู้เดินทางขาเข้า ห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาภายในจังหวัด เข้มงวดเรื่องเคอร์ฟิว ฯลฯ โดยมีการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว จำนวน 49 ราย แยกเป็นออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุจำเป็น จำนวน 44 ราย อกกนอกเคหสถานมียาเสพติดในครอบครอง 3 ราย และออกนอกเคหสถานเมาสุรา จำนวน 2 ราย
