“ตราเพชร” ประเมิน Q1/63 ยอดขายกระทบเล็กน้อยจากโควิด-19 แต่ร้านค้าตัวแทน-ส่งออกไปได้ดี

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้ตราสินค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/63 คาดว่ามีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไม่มากนัก หากเปรียบเทียบกับภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่มีแนวโน้มชะลอตัวในอัตรา -15% ถึง -20% ซึ่งเป็นผลมาจากจุดแข็งของ DRT ที่มีความหลากหลายของสินค้า ‘ตราเพชร’ และช่องทางจำหน่ายที่กระจายตัว ทั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และตลาดส่งออกในอาเซียน ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารความเสี่ยงได้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

นายสาธิต กล่าวว่า พบว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง แต่เปลี่ยนพฤติกรรมไปเลือกซื้อสินค้าที่ร้านตัวแทนจำหน่ายรายย่อยเพิ่มขึ้น หลังจากห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่หลายแห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อลดการแพร่ระบาด เช่นเดียวกับช่องทางส่งออกที่ขยายตัวดีเช่นกัน โดยประเมินทั้ง 2 ช่องทางดังกล่าวสามารถทำรายได้คิดเป็นสัดส่วนรวมกันกว่า 70-75% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินมาตรการควบคุมต้นทุนที่ดีจากการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเฉลี่ย 90% พร้อมบริหารสต๊อกสินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นได้ตามเป้าหมาย

“ด้วยจุดแข็งของช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายของ DRT ทำให้เราบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ดีและได้รับผลกระทบไม่มากนัก แม้มีการปิดห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่เรามีสินค้าวางขายผ่านตัวแทนจำหน่ายรายย่อยทั่วประเทศและช่องทางส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ขยายตัวได้ดีมาชดเชย” นายสาธิต กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า ขณะที่แนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 นั้น ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าภาครัฐจะขยายระยะเวลาการปิดศูนย์การค้าและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่หรือไม่ หากทุกอย่างสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกตินั้น เชื่อว่าจะส่งผลบวกให้แก่ช่องทางจำหน่ายดังกล่าวฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดย DRT พร้อมป้อนสินค้าได้ทันทีเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่กลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ยอมรับว่าอาจจะชะลอตัวไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ประเมินว่าจะส่งผลต่อยอดขายโดยรวมในครึ่งปีแรกชะลอตัวไม่เกิน 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

Advertisement

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วางแผนปฏิบัติงานในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นหลัก พนักงานส่วนหนึ่งสามารถทำงานที่บ้าน (Work for Home) ได้ ขณะที่โรงงานผลิตที่สระบุรีนั้น มีการตรวจเช็คสุขภาพคนงานอย่างเคร่งครัด พร้อมกับดำเนินการติดตั้งระบบโรบอตเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในไลน์การผลิตทดแทนการจ้างแรงงาน Out Source ได้อีกทางหนึ่งด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image