ครม.ไฟเขียว ‘ศธ.’ เลื่อนเปิดเทอม 1 ก.ค. เตรียมจัดงบซื้อแท็บเล็ตแจก น.ร. เรียนออนไลน์ที่บ้าน

ครม.ไฟเขียว ‘ศธ.’ เลื่อนเปิดเทอม 1 ก.ค. เตรียมจัดงบซื้อแท็บเล็ตแจก น.ร. เรียนออนไลน์ที่บ้าน

เลื่อนเปิดเทอม – เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. รับทราบ ตามที่ ศธ.เสนอเรื่องการปรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 ของรัฐ โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2563 เพื่อให้เตรียมความพร้อมในการเรียนการสอนออนไลน์ โดยจะต้องกำหนดวันให้แน่นอน แม้จะมีวัคซีนหรือไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม แต่ ศธ. พร้อมที่จะทำการเรียนการสอนระบบออนไลน์ ถ้ามีวัคซีนป้องกันก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม ก็สามารถสอนตามปกติให้ห้องเรียนต่อไป ทั้งนี้ในวันที่ 16 พฤษภาคม พฤษภาคม ศธ.จะเริ่มปล่อยหลักสูตรการเรียนการสอนในช่องทีวี ที่ ศธ.ได้ประสานกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไว้ เพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจว่าบุตรมีสื่อที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้ดู และถือเป็นการทดลองระบบอีกทางด้วย และทดลองการรับส่งสัญญาณไปด้วย ส่วนโรงเรียนในสังกัดอื่น เช่น โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือโรงเรียนสาธิตอื่นๆ จะเลื่อนเปิดภาคเรียนเป็น 1 กรกฏาคมด้วยหรือไม่ เป็นดุลพินิจและการตัดสินใจของแต่ละหน่วยงาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม ศธ.เสนอเลื่อนเปิดเทอมวันแรกเป็น 1 ก.ค. อ่านข่าวเพิ่มเติม สพฐ.มั่นใจเลื่อนเปิดเทอมไม่กระทบ เล็งทำหนังสือแจงอว. ขยับสอบเข้ามหา’ลัยปี64

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า การเตรียมความพร้อมในเรียนออนไลน์ของ ศธ. ในขณะนี้ยังไม่มีความพร้อมเต็มที่ เพราะต้องให้ครูและนักเรียนมีความพร้อม โดยเฉพาะครูที่ต้องมีทักษะ มีความเข้าใจในกระบวนการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ส่วนนักเรียนต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่มีความสามารถในการเรียนออนไลน์ที่แตกต่างกันไป และการสอนออนไลน์ครั้งนี้ของ ศธ. ทำทั่วทั้งประเทศ แต่ทักษะความสามารถของครูในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ซึ่งตนหวังว่าในช่วงเวลาที่ ศธ.ขยับเปิดภาคเรียนออกไปจะทำให้ครูปรับตัวได้ ทั้งนี้การเรียนการสอนออนไลน์ไม่สามารถทดแทนการเรียนการสอนของครูในห้องเรียนได้ แต่การสอนออนไลน์เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้ในวิกฤตครั้งนี้

“ในปีการศึกษา 2563 จะไม่มีปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนตุลาคม และเดือนเมษายน 2564 แล้ว เนื่องจากเปิดมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ล่าช้าไปกว่า 2 เดือน และเมื่อมีกำหนดเปิดภาคเรียนที่แน่นอนแล้ว การรับนักเรียนระดับชั้น ม.1 และ ม.4 จะเริ่มในต้นเดือนพฤษภาคม โดยรับสมัครผ่านการลงทะเบียนออนไลน์ หลังจากนั้น ศธ.จะทำการตรวจสอบว่ามีรายชื่อนักเรียนที่ซ้ำกันหรือไม่ ทั้งนี้หากไวรัสโควิด-19 ยังระบาดอยู่ ไม่สามารถจัดสอบในโรงเรียนได้ ต้องหาวิธีสอบออนไลน์ ซึ่งจะสอบพร้อมกันทั่วประเทศ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีสูตรสำเร็จในการสอบเข้าเรียนทางออนไลน์ เพราะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ในอนาคต ศธ.กำลังหาวิธีอยู่ “นายณัฏฐพล กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า จะต้องดูถึงความเหมาะสม แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าแท็บเล็ต ที่เตรียมใช้ในการสอนออนไลน์นั้น แตกต่างจากแท็บเล็ตที่เคยแจกมาแน่นอน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า อุปกรณ์ที่ใช้จะต้องมีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่าในงบประมาณที่ลงทุนด้วย ตนเชื่อว่าหากนำข้อมูลที่มีอยู่มาศึกษา ศธ.จะสามารถบริหารจัดการได้ โดยใช้งบประมาณของกระทรวงและไม่ของบเพิ่ม ส่วนวิธีการต่างๆ ต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ขอให้มั่นใจว่าตัวสเปกของอุปกรณที่ใช้เรียนออนไลน์นั้น สามารถรองรับการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ได้แน่นอน ผู้สื่อข่าวถาม ขณะนี้งบของทุกกระทรวงถูกตัดเพิ่มอีก 10% รวมเป็น 20% เพื่อเข้างบกลาง นำไปแก้ปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ศธ.กังวัลใจ หรือได้รับผลกระทบหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า การถูกตัดงบกระทรวงไป ไม่มีผลกระทบศธ. เพราะแรกเริ่ม ศธ.เตรียมงบไว้30% เผื่อรัฐบาลจะเรียกเก็บอยู่แล้ว ทั้งนี้การโยกงบประมาณต้องทำให้ถูกกฎหมาย โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากสำนักงบประมาณด้วย ขณะนี้ ศธ.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลบุคคลกรโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนอกระบบ ให้ได้รับเงินเยียวจากรัฐจำนวน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนงบปี 2564 ต้องกลับมาศึกษาวางแผนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบันด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image