วงการม้าสะเทือน!! ‘ยีลด์โนกราวด์’ พ่อพันธุ์-ยอดม้าแข่งชื่อดังของไทย ตายเพราะกาฬโรคแอฟริกาในม้า

วงการม้าสะเทือน!! ‘ยีลด์โนกราวด์’ พ่อพันธุ์-ยอดม้าแข่งชื่อดังของไทย ตายเพราะกาฬโรคแอฟริกาในม้า
วงการม้าสะเทือน – ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีม้าแข่งชื่อดังในอดีต และปัจจุบัน รวมทั้ง ลูกม้าจำนวนมาก ล้มป่วยเฉียบพลันด้วยโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า โดยมีอาการไข้สูง ขอบตาบวมแดง หน้าตาบวม หายใจติดขัด เสียงดัง เกร็ง และตายในเวลา 24-48 ชั่วโมง เหตุเกิดในฟาร์มม้า 23 แห่ง ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีเพาะพันธุ์ม้าแข่งชื่อดังของประเทศไทยนั้น

เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ม้าแข่งชื่อดัง “ยีลด์โนกราวด์” (YIELD NO GROUND) ยอดพ่อม้าในตำนานม้าแข่งเมืองไทยของฟาร์มฟอเรสสตั๊ด ได้ล้มตาย สร้างความสูญเสียต่อวงการอาชาอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้ เนื่องจากผลผลิตของม้าแข่งสายเลือด “ยีลด์โนกราวด์” มีจำนวนกว่า 100 ตัว ถือเป็นม้าแข่งระดับแนวหน้า สามารถคว้าถ้วยสำคัญหลายใบ

Advertisement

นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับการยืนยันผลตรวจเลือดม้าที่ตายเป็นโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า สายพันธุ์ Serotype 1 จนถึงขณะนี้มีม้าตาย 168 ตัว และป่วย 22 ตัว มาตรการยับยั้งสกัดการแพร่ระบาดได้ดีที่สุดต้องใช้วัคซีนที่ผลิตในต่างประเทศ แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งกระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางอากาศต้องหยุดชะงัก ประกอบการนำมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งมีหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเข้มงวด ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การดำเนินการอาจล่าช้าพอสมควร

“แนวทางที่สามารถดำเนินการได้ทันที และใช้หลักการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมเหมือนกับมนุษย์ ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอปากช่อง และกลุ่มงานพัฒนาสุขภาพสัตว์ลงพื้นที่ชี้แจง สร้างการรับรู้ให้ฟาร์มจัดระบบป้องกันริ้น ยุง ฯลฯ ซึ่งเป็นพาหะนำโรค โดยติดตั้งมุ้ง คนเลี้ยงงดกิจกรรมทางสังคมไปมาหาสู่ระหว่างคอกอื่นๆ มีม้าป่วยให้แยกออกทันที และอุปกรณ์ต่างๆ ห้ามใช้ร่วมกัน คนเลี้ยง หรือผู้เกี่ยวข้องต้องสร้างสุขลักษณะที่ดี ก่อน และหลังสัมผัสม้าให้ทำความสะอาดร่างกาย และสวมถุงมือทุกครั้ง ทั้งนี้ ได้ประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว เพื่อประโยชน์ในการควบคุมป้องกันและการกำจัดโรคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งด่านตามเส้นทาง 5 จุด ห้ามเคลื่อนย้ายม้า ลา ล่อและอูฐ โดยเด็ดขาด” นายพศวีร์ กล่าว

Advertisement

นายพศวีร์กล่าวอีกว่า ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดเขตเมืองโคราช ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ตั้งของคอกม้า 44 แห่ง ม้า 368 ตัว กระจุกตัวอยู่ในรัศมีค่อนข้างแอดอัด และต้องใช้แหล่งน้ำสาธารณะ หรือบุ่งตาหลั่วตอนล่าง เป็นสถานที่ให้ม้าแข่งลงไปอาบน้ำ หรือว่ายน้ำผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพียงแห่งเดียว ประกอบกับอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้การติดตั้งมุ้งไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ ตนให้คำแนะนำแต่ละคอกหมั่นดูแล รักษาความสะอาดทั้งคอก และคนเลี้ยง พ่นยาฆ่าเชื้อโรค และร่วมแรงร่วมใจกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง ซึ่งมีขั้นตอน และวิธีการเหมือนกำจัดลูกน้ำยุงลาย รวมทั้ง ดูแลสอดส่องกรณีการลักลอบนำม้าจากนอกพื้นที่เข้ามาเลี้ยง หากมีม้าป่วยให้รีบแยกออก และแจ้งให้ทราบทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image