ผอ.สน.ป้องกันฯยันไร้การเมืองในทส.ทำไฟป่าลาม ชี้จนท.ทำงานหนักสถานการณ์ดีขึ้นดอยสุเทพดับหมดแล้ว

ผอ.สำนักป้องกันฯยันไร้การเมืองในทส.ทำไฟป่าลาม ชี้จนท.ทำงานหนักสถานการณ์ดีขึ้นดอยสุเทพดับหมดแล้ว

หมอกควัน ไฟป่า ภาคเหนือ วันที่ 8 เมษายน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า เวลานี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทส. ทั้งกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า มาประจำการอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อควบคุมดูแลสถานการณ์ ฝุ่น ควันไฟป่า พื้นที่ภาคเหนือ ในนาม กองอำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหาควบคุมไฟป่าหมอกควันส่วนหน้า โดยมี นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดทส. เป็นผู้อำนวยการ ซึ่งทุกคน ทำงาน และกินนอนที่ศูนย์แห่งนี้ 24 ชั่วโมง มากว่า 2 สัปดาห์ แล้ว สถานการณ์ล่าสุดนั้นการลุกไหม้ของไฟป่าลดลงมากกว่าครึ่ง ไฟบนดอยสุเทพปุย อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพนั้นดับหมดแล้ว ล่าสุดมีการแอบเผาเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 7 เมษายนก็สามารถเข้าไปดับได้ทันท่วงที

“เรายอมรับว่าเราทำงนได้ค่อนข้างลำบาก เพราะเรื่องของการจุดไฟเผาป่านั้นเป็นเรื่องของวิถี ธรรมเนียมประเพณีของชาวบ้านมานานมากแล้ว จุดเพื่อเผาวัชพืช เศษใบไม้ใบหญ้า เพื่อเตรียมการสำหรับการทำการเกษตรในรอบถัดๆไป การจุดเพื่อล่าสัตว์ หรือจุดเพื่อกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ เพราะความแค้นที่โดนจับก่อนหน้านี้ ซึ่งการจุดแต่ละครั้งนั้น จุดที่ไหม้อยู่ในป่าที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางเข้าไปทำงาน จึงบอกว่าทำงานค่อนข้างจะยาก แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่มีใครย่อท้อทุกคนทำงานกันเต็มที่จนเวลานี้สถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว”นายชีวะภาพ กล่าว

ผ้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินข่าวมาเช่นกันว่าสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือเวลานี้ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน และเรื่องนี้เป็นแผนการแก้แค้นของข้าราชการที่ผิดหวังกับกับการทำงานภายในกระทรวง ซึ่งเรื่องนี้ขอเรียนว่า ไม่เป็นความจริงเลย

Advertisement

“สามัญสำนึกของเจ้าหน้าที่ทั้งป่าไม้และอุทยานฯที่ทำทำงานอยู่ตรงนี้ทุกคนทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการทำงานกันทุกคน ทำงานกันทั้ง 24 ชั่วโมง แม้จะเหนื่อย และยังต้องคอยหวาดระแวงกับเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 แต่งานที่อยู่ตรงหน้า ไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้าต้องดับให้ได้ก่อน งานต้องทำให้เสร็จก่อน เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมไปถึงท่านรองปลัด ต้องกินข้าวกล่องทุกมื้อ ดังนั้นไม่ใช่เพราะการไม่ทำงาน ของเจ้าหน้าที่ หรือมีใครที่โดนย้ายแล้วกลับมาแก้แค้นแน่นอน เพราะคนที่ทำอะไรได้ขนาดนั้น ต้องมีอำนาจและอิทธิพลมากๆ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีแน่นอนครับ”นายชีวะภาพ กล่าว

เมื่อถามอีกว่า ที่ผ่านมานอกเหนือจากการทำงานแก้ปัญหา คือการดับไฟแล้ว การใช้กฎหมายที่มีอยู่นำมาใช้เต็มที่ ทุกฉบับหรือไม่ นายชีวะภาพ กล่าวว่า กฎหมายทุกฉบับที่มีอยู่ทั้งของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯเอามาใช้หมดแล้ว แต่ทุกคนต้องเข้าใจว่า การหาตัวคนเผาป่า คนจุดไฟนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆ คนหนึ่งคนเดินเข้าป่าไปจุดไฟแล้วเดินออกมา ไม่ได้จับกันง่ายๆ ป่าใหญ่และกว้าง ดังนั้นสิ่งที่ต้องนำมาใช้ไปด้วยกันคือ การเอาเทคโนโลยีมาใช้ การสร้างเครือข่ายทำความเข้าใจกับชาวบ้าน

ชีวะภาพ ชีวะธรรม

“เวลานี้เรามีการตั้งรางวัลนำจับกับผู้ที่แจ้งเบาะแสเรื่องการเผาป่า ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีประโยชน์และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านมาก ส่วนในเรื่องของเทคโนโลยี เรามีโดรนบินสำรวจหาจุดที่เกิดไฟเพื่อให้เข้าไปสกัดได้ทันท่วงทีไม่ให้ลามไปไกลมาก และทางกองทัพอากาศได้ส่ง ยานบินไร้คนขับ หรือ ยูเอวี(UAV) จำนวน 2 ลำ เข้ามาช่วยบินสำรวจด้วย ซึ่งยูเอวีนั้นศักยภาพในการทำงานจะดีกว่าโดรนตรงที่บินได้สูง ไกล และนานกว่าโดรน ซึ่งเทคโนโลยีที่ทางศูนย์ฯมีอยู่เวลานี้ทำงานเต็มศักยภาพเต็มเวลาเหมือนกับเจ้าหน้าที่ทุกคน”นายชีวะภาพ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image