จุรินทร์ แจ้งราคาข้าวนาปรังแตะหมื่นบาท ส่วนชาวนาใต้เฮ! รับส่วนต่างงวดล่าสุดวันนี้

ชาวนายิ้ม ! จุรินทร์แจ้งราคาข้าวนาปรังกระเตื้องแตะ 10,000 บาทส่วนชาวนาใต้เฮ! รับส่วนต่างงวดล่าสุดวันนี้เลย

เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกในตลาดกระเตื้องขึ้นสูงเป็นลำดับ เพราะนอกจากจะเกิดจากมาตรการส่งเสริมให้ชาวนาเก็บสต๊อกข้าวไว้โดยได้รับเงินชดเชยแล้ว ตลาดต่างประเทศก็ยังมีต้องการเพิ่มสูงขึ้น เช่นในตลาดญี่ปุ่นและประเทศอื่น โดยเฉพาะขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้า ที่ความชื้นไม่เกิน 15% ราคาทางการที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสำหรับข้าวนาปรังขึ้นมาอยู่ที่ราคา 9,200-10,500 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 14,000-15,300 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีอยู่ที่ราคา 10,000-10,500 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวอยู่ที่ราคา 15,600-17,500 บาทต่อตัน เป็นต้น

นายจุรินทร์กล่าวว่า ขณะนี้ยังได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เฝ้าติดตามสถานการณ์ข้าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่ดีที่สุด และขณะเดียวกันก็ต้องติดตามราคาข้าวสารถุงสำหรับบริโภคและตัวเลขการส่งออกข้าวควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้สถานการณ์ข้าวของประเทศในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับภัยโควิด-19 อยู่ในขณะนี้เกิดความสมดุลที่สุด

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามหากราคาข้าวชนิดใดชนิดหนึ่งตกต่ำลงมา นโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ยังคงอยู่ และสามารถช่วยชดเชยเงินส่วนต่างของรายได้ให้กับชาวนาต่อได้ สำหรับการโอนจ่ายเงินส่วนต่างของงวดถัดไปคือวันที่ 8 เมษายน 2563

นายจุรินทร์กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้น รัฐบาลดูแลชาวนาจำนวนเกษตรกรที่มีสิทธิทั้งหมด 4.31 ล้านราย วงเงิน 20,940.84 ล้านบาท ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงไปแล้ว 22 งวดโอนแล้ว 984,539 ราย จำนวนเงิน 19,368 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 92.4 ของงบประมาณทั้งหมด โดยงวดล่าสุดคืองวดที่ 22 ประกาศฯ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 โดยข้าวในภาคอื่นๆ สิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้วคงเหลือภาคใต้ดังนี้ คือ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาตันละ 14,200 บาท ราคาสูงกว่าราคาเป้าหมาย ข้าวเปลือกเจ้า ราคาตันละ 9,638 บาท ชดเชยส่วนต่างตันละ 361.84 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีราคาตันละ 10,903 บาท ชดเชยส่วนต่างตันละ 96.54 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ราคาตันละ 16,833 บาท ราคาสูงกว่าราคาเป้าหมาย โดยงวดล่าสุดที่โอนคืองวดที่ 21 โอนเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 เกษตรกรจำนวน 7,615 ราย วงเงิน 21.09 ล้านบาท และงวดที่ 22 คาดว่าจะโอนวันนี้ วันพุธที่ 8 เมษายน 2563 วงเงินประมาณ 8.60 ล้านบาท

Advertisement

นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า คณะรัฐมนตรีว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ได้ให้ความเห็นชอบให้ขยายโครงการเสริมคือชะลอการขายข้าวเปลือกของชาวนาออกไป จากเดิมสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นสิ้นเดือนเมษายน และสิ้นเดือนกรกฎาคมสำหรับข้าวในภาคใต้ โดยการเพิ่มยอดการชดเชยการชะลอขายข้าวจาก 1,000,000 ตันเป็น 1,500,000 ตัน โดยชดเชยให้เกษตรกรที่เก็บสต๊อกข้าว ตันละ 1,500 บาท ส่วนสถาบันการเกษตร หรือสหกรณ์ จะชดเชยให้ตันละ 1,000 บาท และชดเชยให้เกษตรกรที่เก็บข้าวไว้กับสหกรณ์ตันละ 500 บาทด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มวงเงินจากเดิม 10,000 ล้านบาทเป็น 15,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image