พีเอ็ม 2.5 ยังรังควาน ภาคเหนือ พบ 6 สถานี ฝุ่นหนาแน่น 3 จังหวัด สุดวิกฤต

ภาคเหนือยังคงเผชิญกับปัญหาหมอกควัน และฝุ่นพีเอ็ม 2.5 อย่างหนัก พบ 6 สถานี พบปริมาณค่าฝุ่นหนาแน่นในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน

หมอกควัน ไฟป่าภาคเหนือ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 เมษายน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5ในพื้นที่ภาคเหนือ.ตรวจวัดค่าฝุ่นรวม 26 สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง 32 – 241 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) มี 6 สถานี คือ ต.เวียง อ.เมือง. 108 มคก./ลบ.ม, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 156 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง. 101 มคก./ลบ.ม., ต.ศรีภูมิ อ.เมือง. 100 มคก./ลบ.ม., ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 241 มคก./ลบ.ม. และต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 121 มคก./ลบ.ม.

 

Advertisement

ส่วนพื้นที่ ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) มี 11 สถานีคือ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม, ต.สุเทพ อ.เมือง, ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.พระบาท อ.เมือง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน และต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก

ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 56 – 172 มคก./ลบ.ม. ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 มคก./ลบ.ม.มีค่าเกินมาตรฐาน 6 สถานีคือ ต.เวียง อ.เมือง, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

Advertisement

วราวุธ ศิลปอาชา

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ซึ่งลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน รัฐมนตรี ทส. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563  จนถึงวันนี้ พบว่า ตอนนี้ สามารถควบคุมสถานการณ์คุมไฟป่าบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ 100% ซึ่งตั้งแต่วันนั้นมาได้มีการสนธิกำลังในการปฏิบัติงาน โดยแบ่งออกเป็น 3 ชุด ประกอบด้วย ชุดลาดตระเวน ชุดดับไฟป่า และชุดประจำหมู่บ้าน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ทส. เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ให้ได้รับทราบถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผา และมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่งผลให้จุดความร้อนลดลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image