“โฆษก ศบค.” เผย นายกฯห่วง “โควิด-19” ติดในผู้เดินทางเข้าประเทศ
เกาะติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ประเทศพบจำนวนผู้ป่วยยืนยันใหม่ 54 ราย พบใน 16 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) 21 ราย ปัตตานี 11 ราย ชลบุรี ปทุมธานี ภูเก็ตจังหวัดละ 3 ราย ยะลา 2 ราย เชียงใหม่ ชัยภูมิ ตรัง นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส พัทลุง พิษณุโลก ลำปาง สมุทรปราการ จังหวัดละ 1 ราย และอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค 1 ราย แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ จำนวน 49 ราย
1.มีประวัติสัมผัส/เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 22 ราย
1.1 สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม. 22 ราย
2.ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 21 ราย
2.1 ชาวต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย
2.2 คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย
2.3 ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 4 ราย
2.4 อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัดหรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 8 ราย
2.4 บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 4 ราย สะสม 80 ราย
3.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 6 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า ทำการแยกกักในสถานที่รัฐบาลจัดให้ (State Quarantine) เดินทางมาจากประเทศอินโดนิเซีย ใน จ.ปัตตานี จำนวน 5 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและเป็นห่วง ในการประชุมวันนี้จึงมีมาตรการดูแลผู้เดินทางเข้ามายังประเทศ อย่างไรก็ตามผู้ที่ป่วยเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ จึงจะต้องทำการป้องกันและสกัดกั้น
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จะพบว่าในภูเก็ตจำนวนผู้ป่วยเริ่มลดลง เนื่องจากมีการค้นหาผู้ป่วยแบบการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case finding) โดยการเจาะกลุ่มเข้าไปไม่ได้ตรวจทุกคนแต่ลงหาผู้ป่วยบางพื้นที่ เมื่อตรวจเสร็จนำเข้าสู่การรักษาก็จะลดการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งวันนี้ในภูเก็ตพบเพียง 3 ราย ซึ่งก็อยากให้จำนวนลดลงมากขึ้น ในวันนี้พบผู้ป่วยใหม่จำนวน 54 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่น่าพึงพอใจและจะต้องมีการเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งมาตรการส่วนตัวและมาตรการสังคม
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่มีการติดเชื้อรวมสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงวันที่ 8 เมษายน มีบุคลากรติดเชื้อรวมสะสม 80 ราย ซึ่งถือเป็นร้อยละ 3.4 ของผู้ป่วยทั้งหมด ในจำนวนนี้ แบ่งเป็น 1.การติดเชื้อในการทำงาน 50 ราย คิดเป็นร้อยละ 63.5 เช่น ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน แผนกฉุกเฉิน ทันตกรรม ห้องปฏิบัติการและพนักงานสนับสนุน 2.การติดเชื้อในชุมชน 18 ราย คิดเป็นร้อยละ 22.5 และ 3.อยู่ในระหว่างการสอบสวน 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 ทั้งนี้ จึงอยากเรียนประชาชนที่มีอาการป่วยว่าหากมีอาการป่วยให้เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ไม่ใช่คลินิกทั่วไป ซึ่งจะต้องเข้าไปที่คลินิกโรคไข้หวัดเพื่อเป็นการคัดกรองโรคระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะ และเพื่อป้องกันการติดเชื้อไปยังบุคลากรแผนกต่างๆ
