คลังไล่เช็คบิลมือโพสต์ด่ารับเงินเยียวยา 5 พันบาท เตรียมสุ่มตรวจสอบเดือดร้อนจากโควิด-19 จริงไหม เผยเตรียมเรียกเงินคืน ดำเนินคดี กลุ่มที่ผิดเงื่อนไข
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเร่งตรวจสอบผู้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 5 พันบาทต่อเดือน กว่า 24 ล้านคน ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ โดยในรายที่ผ่านคุณสมบัติจะทยอยจ่ายเงินให้เพิ่มเติม หลังจากสัปดาห์นี้จ่ายประมาณ 1.6 ล้านราย คาดในสัปดาห์หน้าตัวเลขการจ่ายเงินจะอยู่ที่หลักล้านคนเช่นกัน ส่วนในรายที่ไม่ผ่านคุณสมบัติจะแจ้งผ่านSMSว่าเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ ส่วนในรายที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็จะแจ้งภายในวันที่ 11-12 เมษายนนี้ ให้เวลาภายใน 2 สัปดาห์ในการส่งข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากนั้นถ้าคุณสมบัติจะโอนเงินให้ทันที
นายลวรณ กล่าวว่า ส่วนกรณีกลุ่มประชาชนโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาทจากรัฐบาล และไม่ได้เดือดร้อนจริง 2-3 ราย ขณะนี้ให้ทีมกฎหมายเข้าไปตรวจสอบแล้ว ถ้าพบว่าให้ข้อมูลเท็จ จะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายลวรณ กล่าวว่า ขณะนี้การตรวจสอบจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ไม่ได้รับเงินแต่บอกว่าได้เงิน ถือว่า สร้างความสับสน จะมอบให้กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)ไปช่วยตรวจสอบ เพราะถือเป็นข่าวปลอม( Fake News) และ 2.พวกที่ได้เงินจริง แต่ใส่ข้อมูลที่เป็นเท็จ กรณีนี้ ตรวจสอบและจะดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับในรายที่ได้เงินแล้ว ต้องคืนเงินให้กระทรวงการคลัง และมีแนวโน้มถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายลวรณ กล่าวว่า ในการตรวจสอบนั้นกระทรวงการคลังต้องทำงานแข่งเวลา ยอมรับว่ามีการหยุดการตรวจสอบจากระบบเอไอ แต่ไม่ใช่ว่ากระทรวงการคลังจะปล่อยผ่าน หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบย้อนกลับทั้งใช้ระบบเอไอและใช้บุคคลเข้าไปตรวจสอบ เช่น สุ่มตรวจว่าร้านค้าหรืออาชีพที่แจ้งไว้ว่ามีร้านค้าจริงหรือไม่ มีการประกอบอาชีพจริงหรือไม่ รวมถึงกรณีมีการโพสต์ในโลกออนไลน์ กระทรวงการคลังเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว ทั้งกรณีโพสต์ว่าเป็นเศษเงิน โพสต์ว่าสมทบทุนฉีดโบท็อก รวมถึงการโพสต์อื่นๆ กระทรวงการคลังไม่ได้นิ่งนอนใจที่มีการโพสต์ถึงโดยจะนำข้อมูลของบุคคลเหล่านั้นมาตรวจสอบทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งในกลุ่มนี้มีบทลงโทษชัดเจนในก่อนลงทะเบียน ตรงนี้ไม่เหมือนการจ่ายเงินบัตรสวัสดิการไม่มีข้อตกลงการเรียกรับเงินคืน หรือการลงโทษเมื่อพบกระทำผิดข้อตกลง
“คลังต้องเร่งตรวจสอบเพื่อให้เงินถึงมือคนที่เดือดร้อนโดยเร็ว ส่วนคนที่ไม่เดือดร้อนเมื่อได้รับเงินแล้วก็วิพากษ์วิจารณ์ หรือมาป่วน โพสต์อวดในโลกออนไลน์ ขอให้โพสต์ตามสบาย เพราะจะทำให้กระทรวงการคลังเข้าถึงตัวตนของคนที่ได้รับเงินไปได้ง่าย กลุ่มนี้จะถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากจ่ายเงินกระทรวงการคลังเริ่มกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ ถ้าพบทำผิดข้อตกลงจะยกเลิกการจ่ายเงินในเดือนถัดไป เรียกเงินคืน รวมถึงเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย”นายลวรณ กล่าว
