‘จุรินทร์’ ยันใช้สิทธิเรียกหาความยุติธรรม จัดการคนใส่ความ ป้องชื่อเสียงเกียรติยศ
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีส่งทีมทนายไปดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่าตนเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนให้มีการตรวจสอบในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้มีกระบวนการตรวจสอบในเรื่องหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะโดยผู้ตรวจการแผ่นดิน พนักงานสอบสวนหรือตำรวจซึ่งรวมทั้งในส่วนของกรรมาธิการของสภาซึ่งตนให้ความร่วมมือและมั่นใจว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้นจึงขอเรียนว่าสนับสนุนให้มีกระบวนการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ปรากฏต่อสังคมว่าเป็นอย่างไร
“แต่สำหรับกรณีที่ต้องส่งทีมทนายไปแจ้งความดำเนินคดีกับคุณอัจฉริยะก็เพราะว่าผมและฝ่ายกฎหมายได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยลำดับ พบความจริงว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่ไม่เป็นการตรวจสอบในลักษณะปกติ แต่เป็นลักษณะของการใส่ความ และมีการไลฟ์สดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผมและการปฏิบัติหน้าที่ของผม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีซึ่งการดำเนินคดีทั้งหมดจะมีอยู่ด้วยกัน 5 กรรม เพราะว่ามีการไลฟ์สด 5 ครั้ง ซึ่งรายละเอียดขอให้เป็นหน้าที่ของทีมกฎหมายและพนักงานสอบสวนที่จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไปทั้งในส่วนของกรณีการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ และในส่วนของการใส่ความทำให้ได้รับความเสียหาย” นายจุรินทร์ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขอเรียนว่าถ้าเป็นกระบวนการตรวจสอบที่สุจริตนั้นตนไม่มีข้อขัดข้องและยินดีที่จะสนับสนุนและพร้อมที่จะชี้แจงทำความเข้าใจและพร้อมที่จะรับการตรวจสอบเพราะเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ทำงานการเมืองมาเป็นผู้แทนราษฎรครั้งแรกตั้งแต่อายุ 29-30 ปี เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกตั้งแต่อายุ 36 ปีและปฏิบัติภารกิจในฐานะรัฐมนตรีอย่างน้อย 4 รัฐบาลมาหลายกระทรวง ไม่เคยมีเรื่องทุจริต และพร้อมที่จะให้การตรวจสอบเสมอ แต่กรณีนี้เข้าข่ายการใส่ความชัดเจน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิเรียกหาความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใส่ความและทำให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติยศชื่อเสียงและการปฏิบัติภารกิจของตน
