หุ้นไทยดีดตัว ปิดบวก 17.55 จุด ได้หุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงาน หนุนตลาดขึ้น

หุ้นไทยดีดตัว ปิดบวก 17.55 จุด ได้หุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงาน หนุนตลาดขึ้น

  วันที่ 10 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ1,210.48 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,234.40 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,228.03 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 17.55 จุดหรือ 1.45% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,228.07 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,205.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่53,795.91 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,154.97 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 119.19ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,190.92 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ2,226.70 ล้านบาท โดยดัชนีลบมากสุด 5.33 จุด บวกมากสุด 17.59 จุด

 นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปิดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวย่อตัวลงในภาคเช้า เนื่องจากตลาดผิดหวังการประชุมของกลุ่มผู้นำผลิตน้ำมันโอเปกพลัส ที่ปรับลดกำลังการผลิตไป 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ปรับลดเพียง 2 เดือน ทำให้ตลาดประเมินว่าอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มาก โดยราคาน้ำมันดิบปิดลดลงเล็กน้อย ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานหดตัวลงไม่แตกต่างกันในช่วงเช้า ส่วนภาคบ่ายดัชนีดีดตัวขึ้น สาเหตุมาจากสัญญาณของการดึงกลับ โดยภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 เริ่มนิ่งมากขึ้น อัตราการพบผู้ติดเชื้อใหม่ไม่ได้ดีดตัวรุนแรง ทำให้ตลาดน่าจะเริ่มกล้าเลือกลงทุนมากขึ้นและเลือกหาหุ้นที่ปรับตัวลงมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา อยู่ในโซนล่างๆ แล้วทยอยสะสมต่อไป โดยจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มที่ดันตลาดหุ้นเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก คือ โรงไฟฟ้า ได้แก่ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี, จีพีเอสซี ที่กระตุ้นบรรยากาศกลับมาดีขึ้น บวกกับหุ้นกลุ่มพลังงานก็ฟื้นขึ้นมาช่วยอีกขาหนึ่ง แต่ดัชนียังไม่ได้ไปไกลมากนัก

 “ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การประกาศงบการเงินของหุ้นกลุ่มแบงก์ ที่ออกมาเป็นกลุ่มแรกจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงการรายงานตัวเลขจีดีพีของจีน ที่เหลือยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเร่งตัวขึ้นหรือไม่ หากไม่เร่งตัวขึ้นก็จะเป็นบรรยากาศที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยได้นายวิจิตรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image