‘แม่ทองสุก’ เชื่อทองคำยังพุ่งได้ไกล ย้ำมีโอกาสเห็นราคาแตะ 27,000 บาทได้แน่นอน

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในขณะนี้ ยังเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปรับขึ้นและลงสลับกันไป แทบจะไม่มีการหยุดนิ่งของราคา แต่ยังมีผลกระทบจากการที่สนามบินทั่วโลกปิดทำการ ทำให้การส่งออกทองคำไปต่างประเทศในขณะนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ จึงจะเห็นส่วนต่างการซื้อและขายทองคำกว้างขึ้น อยู่ที่ 200 บาท ตามราคมสมาคมค้าทองคำ โดยล่าสุดราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่บาททองคำละ 25,650 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 2563 กว่า 4,190 บาท ซึ่งราคาขายออกในวันที่ 1 มกราคม 2563 อยู่ที่ 21,450 บาท โดยประเมินเบื้องต้นในปี 2563 ยังเชื่อว่าจะได้เห็นทองคำไต่ระดับขึ้น จนทำราคาสูงสุดที่ 27,000 บาทได้ หากปัจจัยลบต่างๆ ยังไม่คลายตัว โดยเฉพาะ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสทดถอย จึงอยากแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมในจังหวะที่ราคาย่อตัวลง ซึ่งมองราคาเข้าซื้อที่เหมาะอยู่ในบริเวณ 24,000 บาท

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงมีทิศทางที่ดี และน่าจะมีโอกาสเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นว่าทั่วโลกมีการออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและประชาชนในประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่ตัวเลขการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้ต้ดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้วิธีเดียวที่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้คือ การพิมพ์ธนบัตรออกมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้น ตามหลักเศรษฐกิจในเรื่องดีมานด์และซัพพลาย ยิ่งพิมพ์เงินออกมาจำนวนมากๆ มูลค่าของเงินก็จะลดลงสวนทางกัน ทำให้สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยจะกลับมาเป็นทองคำอีกครั้ง ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสมี่จะปรับตัวขึ้นได้อีก

“ปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับระดับขึ้น นอกจากจะเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินของหลายประเทศทั่วโลก ยังเป็นสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะจบได้ในช่วงใด และยังไม่รู้ว่าหากจบได้แล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไป โดยหากพิจารณาจากจีน ที่เริ่มเปิดประเทศกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ในเมืองอู่ฮั่นแม้จะมีการเปิดให้พลเมืองออกจากบ้านและใช้ชีวิตปกติได้ แต่ก็ดูยังไม่ได้เปิดแบบเต็มที่ทั้งหมด ยังเป็นการทยอยเปิดแบบชะลอตัว ทำให้ต้องติดตามว่าภาพรวมในระยะถัดไปจะเป็นอย่างไร” นายณัฐพงศ์กล่าว

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า สำหรับปัจจัยหลักที่อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง เหตุผลเดียวคือ แรงขายจากตลาดน้ำมันและตลาดหุ้นอีกรอบใหญ่ๆ ซึ่งจะฉุดให้ราคาทองคำร่วงตามได้ ซึ่งที่ผ่านมา ราคาทองคำและหุ้นจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างกัน แต่ขณะนี้ทองคำและหุ้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากสัดส่วนการถือทองคำอยู่ในตลาดการซื้อขายล่วงหน้า ทำให้หากหุ้นปรับตัวลง ส่วนใหญ่นักลงทุนจะเจอกับการต้องเพิ่มสินทรัพย์หรือเงินทุนเข้าในพอร์ตหุ้นมากขึ้น ทำให้หากนักลงทุนมีทองคำในมืออยู่ ก็ต้องขายออกเพื่อนำเงินมาสนับสนุนหุ้นในมือเพิ่มขึ้น เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์เดียวที่มีโอกาสปรับราคาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image