คนร้าย ลักลอบตัดสายส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ คาดเสียหายเกือบ 1 ล้าน
เมื่อวันที่ 12 เมษายน ร.ต.อ.หญิง กมลวรรณ ตังสุรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งว่ามีคนร้ายลักตัดสายสัญญาณเสาโทรศัพท์มือ ในพื้ที่หมู่ที่ 2 ต.ละแม จึงพร้อมด้วย ร.ต.ท.ชนะ บุญญะ หัวสายตรวจตำรวจละแม รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มขนาดใหญ่ กลางชุมชนบ้านแหลมสันติ หมู่ที่ 2 ต.ละแม ข้าง ร.ร.บ้านแหลมสันติ เป็นที่ตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ พบสายนำสัญญาณขนาดใหญ่ถูกตัดกองที่โคนเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีอุปกรณ์ตัดสาย อุปกรณ์ปีนเสา จึงบันทึกรายละเอียด พร้อมประสานตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ได้ตามคนร้ายที่ทราบว่าใช้รถกระบะ สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนกอ 6631 สุราษฏร์ธานี ขับรถหนีออกไปทางถนนสายเอเชีย 41 มุ่งหน้าไปยัง อ.หลังสวน จ.ชุมพร และ หลบเข้าเส้นทางลัดไป อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ด้วยความเร็วสูง แต่ไม่สามารถจับกุมได้
นางบุญครอง เพชรเกด อายุ 66 ปี เจ้าของสวนปาล์มที่ตั้งเสาสัญญาณ กล่าวว่า ในช่วงเที่ยงเห็นคนร้ายมาด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 ขับรถกระบะเข้ามาอ้างว่าเป็นช่างของบริษัทมือถือดีแทค และเข้ามาซ่อมเสาสัญญาณ โดยห้ามนางบุญครองเข้าไปดูใกล้ๆ จากนั้นคนร้ายได้ปีนขึ้นไปยอดเสา ใช้เชือกโยงสายลงมา ตัดเป็นท่อนๆ กองไว้ที่โคนเสา นางบุญครองจึงให้หลานๆ ถ่ายภาพรถยนต์คันดังกล่าวไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่บริษัทดีแทค ได้โทรศัพท์แจ้งมายัง นายสุรัตน์ จักรวรรดิ อายุ 48 ปี ลูกชายของนางบุญครอง ว่าสัญญาณโทรศัพท์จุดดังกล่าวขาดหายไป สงสัยจะมีคนร้ายมาลักตัดสาย จึงไปตรวจสอบพบว่าคนร้ายเพิ่งจะหลบหนี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ของบริษัทดีแทคได้เดินทางมาตรวจสอบพบว่า เสาสัญญาณต้นดังกล่าว มีความสูงถึง 60 เมตร สายสัญญาณที่ถูกตัดเป็นสายที่มีทองแดงเป็นตัวนำสัญญาณ การถูกตัดดังกล่าวทำให้สัญญาณโทรศัพท์ขาดหายเป็นวงกว้างทั้งอำเภอละแม ต้องใช้เวลานานกว่าจะซ่อมเสร็จ เบื้องต้นคาดว่าความเสียหายหลายแสนบาท และอาจสูงถึง 1 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่พอทราบเบาะแสคนร้ายว่าอยู่ในใน ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี พื้นที่ติดต่อกับ อ.ละแม จ.ชุมพร และมีประวัติก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง
