จับเพิ่ม 2 ราย ขายหน้ากากแพงเกินจริง ยอดสะสม 311 ราย       

นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ว่า ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กรณีหน้ากากอนามัย เพิ่ม 2 ราย เป็นร้านขายยาในกรุงเทพฯ 1 ราย  พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่อง 50 ชิ้น ราคากล่องละ 950 บาท หรือเฉลี่ยชิ้นละ 19 บาท จะถูกดำเนินคดีกระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29

และต่างจังหวัด 1 ราย คือ พัทลุง เป็นร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา แจ้งข้อหากระทำความผิด ตามมาตรา 28  ทำให้ตั้งแต่ดำเนินการมาจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวม 311 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 155 ราย และต่างจังหวัด 156 ราย

ทั้งนี้ โทษกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง  มาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้าย แสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นางลลิดากล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ไข่ไก่ไม่น่าเป็นกังวล เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่กระจายออกสู่ตลาดทุกวัน ทำให้ราคาไข่ไก่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเพียงพอต่อการบริโภคของประชาชน จึงไม่พบการกระทำความผิดเพิ่ม ซึ่งกระทรวงยืนยันจะบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ อย่างเข้มงวดมากขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image