แนะรัฐปิดร้านทอง ห่วงเจ๊ง แห่เข้าคิวเทขายวันเดียว 200 ล้าน นายกฯค้าทองแฉพิษโควิด กระแสเงินสดวูบ

แนะรัฐปิดร้านทอง ห่วงเจ๊ง หลังประชาชนหลั่งไหลเข้าคิวแต่เช้ามืด เทขายวันเดียว 200 ล้าน นายกสมาคมค้าทองคำแฉพิษโควิด เส้นทางขนส่งปิด เที่ยวบินลด กระแสเงินสดในตลาดหายไป

เสนอปิดร้านทอง เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ในวันนี้ ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างร้อนแรง โดยครั้งแรกปรับขึ้นทันที 550 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่บาททองคำละ 26,250 บาท ส่วนทองคำรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 26,750 บาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ภาคธุรกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบรุนแรง กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก ถึงแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใน ภูมิภาคเอเชียจะชะลอความรุนแรงลง แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตในยุโรปกลับทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงยังมีปัจจัยสนับสนุนจากกองทุนเปิดดัชนีที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (เอสพีดีอาร์) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งใหญ่ที่สุดในโลก ได้ซื้อทองคำสูงถึง 15.5 ตัน ในวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา โดยถือครองอยู่ที่ 1,009.70 ตัน หลังจากตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จนถึงปัจจุบัน ซื้อทองคำไปแล้วกว่า 45 ตัน โดยมองแนวโน้มในระยะถัดไป หากไวรัสโควิด-19 ยังทวีความรุนแรงในยุโรปอย่างต่อเนื่อง ราคาทองคำก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำสปอตสามารถทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,927 เหรียญสหรัฐ ส่วนทองคำไทยทำจุดสูงสุดที่ 27,100 บาท จึงประเมินว่า แม้ทองคำสปอตอาจขึ้นไม่ถึง 1,927 เหรียญสหรัฐ แต่ราคาทองคำไทยอาจขึ้นไปสูงกว่า 27,100 บาทได้ในปีนี้

“ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน และกองทุนเอสพีดีอาร์ ที่ซื้อทองคำไปจำนวนมาก สนับสนุนให้ราคาทองสปอตปรับขึ้นเหนือ 1,700 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา โดยการที่ทองคำปรับราคาขึ้นแรงๆ ทำให้มีนักลงทุนนำทองคำมาขายทำกำไรจำนวนมาก เข้ามาต่อแถวขายตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด โดยเฉพาะวันนี้ที่ 14 เมษายน มีลูกค้านำทองคำมาขายคืนแล้ว คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมาก เพราะมีทั้งการนำทองเก่าและใหม่มาขาย เพื่อทำกำไร และถือเงินสดไว้เพิ่มความสามารถในการใช้จ่ายของตัวเอง โดยประมาณเบื้องต้น ทองคำในมือของนักลงทุนทั่วประเทศ น่าจะมีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ทำให้หากลูกค้านำทองคำมาขายพร้อมกัน ร้านทองคงไม่มีเงินรับซื้อทั้งหมดแน่นอน แม้แต่การพิมพ์ธนบัตรขึ้นมาใหม่ก็คงไม่เพียงพอในการรับซื้อ” นายจิตติกล่าว

นายจิตติกล่าวว่า ขณะนี้สภาพคล่องในตลาดทองคำดูไม่ดีมากนัก เนื่องจากการส่งออกทองคำไปขายต่างประเทศ ไม่สามารถทำได้ตามปกติ แม้จะมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่การส่งออกขายก็ติดปัญหาตรงที่บางเส้นทางขนส่งถูกปิด และสายการบินลดเที่ยวบินลง รวมถึงการขายทองคำไปต่างประเทศได้รับเงินช้าลง จากแต่ก่อนได้รับเงินภายใน 1 สัปดาห์ แต่ขณะนี้ได้รับเงินภายใน 2 สัปดาห์ ทำให้กระแสเงินสดในตลาดทองคำหายไป เพราะตอนนี้ทองคำขายไม่ออก หากนับสัดส่วนการขายทองคำ ภายในเดือนนี้ขายออกไปไม่ถึง 1 แสนบาท จึงมีแต่ทองคำ แต่ไม่มีกระแสเงินสดในมือ โดยอยากแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไร และถือครองทองคำเก็บต่อไป เพราะเชื่อว่าแนวโน้มในอนาคตยังเป็นขาขึ้นแน่นอน และถึงอย่างไร ทองคำก็เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้การถือครองต่อไปคงไม่ขาดทุน

นายจิตติกล่าวว่า ที่ผ่านมา สมาคมฯได้หารือภายใน เพื่อรับมือกับความต้องการขายทองคำเพื่อทำกำไรของนักลงทุนจำนวนมากมาตลอด ซึ่งหากสถานการณ์การขายทองคำยังดูรุนแรงขึ้น ก็ต้องการหารือกับรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลช่วยสั่งปิดร้านทองชั่วคราว เพื่อรักษาสภาพคล่องของผู้ประกอบการในตลาดทองคำ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแรงขายจากนักลงทุนออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สัปดาห์นี้ ร้านทองยังมีความสามารถในการซื้อทองคำอยู่ แต่หากพ้นสัปดาห์นี้ไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมีความสามารถในการรับซื้อต่อได้หรือไม่ โดยมีลูกค้าบางรายที่ต้องการให้รับซื้อในราคาระดับนี้ไว้ก่อน แล้วให้ร้านทองทยอยจ่ายเงินให้ ซึ่งผู้ประกอบการก็ไม่อยากทำแบบนั้น เพราะไม่มีความสบายใจ ในการนำเงินในอนาคตออกมาใช้ก่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image