“บิ๊กแป๊ะ” ฟิต! ตรวจ 4 ด่านภาค 1 เมื่อคืน พร้อมมอบเงิน ”บิ๊กตู่”-ตัวเอง เป็นขวัญกำลังใจ พบทั่วประเทศฝ่าเคอร์ฟิวกว่า 900
เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ออกสุ่มตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติประจำจุดตรวจจุดสกัด จำนวน 4 จุด ในเขตพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 2 นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฝากขอบคุณ พร้อมแสดงความเป็นห่วงเป็นใย เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยร่วมปฏิบัติทุกนาย ที่เสียสละเวลาทุ่มเททำงานเพื่อส่วนรวม โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำ ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรายานพาหนะและบุคคล ตลอดจนการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อฯ และข้อแนะนำแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและ ผบ.ตร. ได้มอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อีกด้วย
โดยจากรายงานการตั้งจุดตรวจจุดสกัดกว่า 970 จุดทั่วประเทศเมื่อคืนนี้ ยังคงพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนกว่า 900 คน ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่หน่วยร่วมปฏิบัติทุกนายเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยร่วมปฏิบัติ ออกตรวจตราในบริเวณถนนสายรอง หรือในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับกุมการกระทำผิดในลักษณะที่เป็นการซ้ำเติมประชาชน
รองโฆษก ตร.กว่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ปรากฏบนโซเชียลมีเดีย ถึงความซ้ำซ้อนของการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ที่ส่งผลกระทบให้พี่น้องประชาชนไม่ได้รับความสะดวกนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประสานงานร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อพิจารณาปรับจุดตรวจและแนวทางการปฏิบัติให้มีความเหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด พร้อมฝากขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย หากจุดตรวจคัดกรองควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) นั้นไปกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ด้วยเจตนารมณ์ ของรัฐบาล ในการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่อการควบคุมแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีเจตนาให้ประชาชนปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ให้มากที่สุด มิได้มีเจตนาให้พี่น้องประชาชนเสียเวลาแต่อย่างใด ประกอบกับจากการออกสุ่มตรวจในแต่ละพื้นที่นั้น ก็ได้รับทราบถึงสถานการณ์และสภาพปัญหาในการปฏิบัติ โดยจะได้นำมา ปรับเปลี่ยน แก้ไขการทำงานโดยเร็วต่อไป