‘ดีอีเอส’เปิดปฏิบัติการวันแรก เอาผิดมือแชร์ข่าวเฟกนิวส์ 9 ราย สั่งเฝ้าระวัง 50 เพจ (คลิป)

กระทรวงดิจิทัลฯดำเนินคดีผู้โพสต์แชร์เฟกนิวส์ 9 ราย สั่งเฝ้าระวังเฟซบุ๊ก 50 เพจ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 เมษายน ที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ข่าวกรองยาเสพติด หัวหน้าตำรวจประสานงานกระทรวงดิจิทัลฯ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. แถลงผลการปฏิบัติเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ที่โพสต์ หรือแชร์ข่าวปลอม ในวันแรกพบผู้กระทำความผิดจำนวน 9 ราย ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ตามสั่งการของนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอบ ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิด และดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการเสนอข่าวไม่เป็นความจริง บิดเบือนข่าวสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมีผู้โพสต์แชร์ข่าวปลอมจำนวน 9 ราย มีเนื้อหาอาทิ ไปรษณีย์เตือน! มีผู้ติดเชื้อ covid-19 จากจดหมายหรือพัสดุ ,ลือ เคอร์ฟิว 24 ชม.เริ่มเสาร์-อาทิตย์ ต้องตุนอาหารและเครื่องดื่ม ,พบพนักงานธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยติดเชื้อ ,ห้ามใช้อินเทอร์เน็ตว่าร้ายรัฐบาล

ทั้งนี้บุคคลที่ถูกตรวจพบว่ากระทำความผิดทั้งหมดจะเข้าข่ายถูกแจ้งข้อหาทุกรายหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาจากความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น ยอดแชร์ ยอดไลค์ และ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯฝากถึงประชาชนว่าหากพบการกระทำความผิดหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างจริงจังและรัดกุม โดยเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังเพจเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 50 เพจและที่ผ่านมาศูนย์ปราบปรามข่าวปลอมเคยดำเนินการปิดเพจที่โพสต์ข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ไปแล้ว 10 เพจ หลังจากนี้ก็จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป

ด้านน.ส.ศศิชา (สงวนนามสกุล) ชาว จ.นครสวรรค์ ผู้ถูกจับกุม จากการโพสต์ข้อความว่า “ลือ เคอร์ฟิว 24 ชม.เริ่มเสาร์-อาทิตย์ ต้องตุนอาหารและเครื่องดื่ม” เปิดเผยว่าได้ดูข้อมูลจากทางเฟซบุ๊กหลายคน แล้วโพสต์ข้อความโดยไม่ได้กรองข่าวให้ถี่ถ้วน ซึ่งตนเองไม่ได้เจตนา รู้เท่าไม่ถึงการ โดยขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจ ขอให้ผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ คิดก่อนโพสต์ตรวจสอบข่าว ว่ามาจากภาครัฐโดยตรงหรือไม่เพื่อไม่เป็นการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จ อย่างไรก็ตาม น.ส.ศศิชา จะถูกดำเนินคดีในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ นั้น จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าที่มาของข่าวมาจากที่ใด

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image