‘โอสถสภา’ ขอเดินเคียงข้างทุกคน ชูแผนรับมือ 5 ทิศ สู้โควิด-19

นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า หัวใจในการดำเนินธุรกิจของโอสถสภาที่ผ่านมา ได้ยึดมั่นถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 5 ฝ่าย ได้แก่ ผู้บริโภค พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงาน ผู้ถือหุ้น ตลอดจนชุมชนและสังคม มาโดยตลอด และเมื่อต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ วิถีชีวิต และพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างมาก บริษัทฯ พร้อมยืนเคียงข้างทุกฝ่ายเพื่อฟันฝ่าปัญหาครั้งนี้ไปด้วยภัน โดยมีแผนรับมือ 5 ทิศ เพื่อดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย โดยการแพร่ระบาดในครั้งนี้ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่ช่วยดูแลด้านสุขอนามัย ในฐานะที่โอสถสภาเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างเร่งด่วน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้เร็วที่สุด อาทิ ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือภายใต้แบรนด์ โอเล่ ที่มีให้เลือกทั้ง2 แบบคือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือขนาด 500 มล. มีแอลกอฮอล์ 70% ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำความสะอาดมือ โดยผิวยังคงความชุ่มชื่น และสเปรย์ทำความสะอาดมือ รวมถึงผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ แนชเชอรัล แฮนด์ ซานิไทเซอร์ เจลสำหรับแม่และลูกน้อย

นางวรรณิภากล่าวว่า โอสถสภายังสร้างแคมเปญแต้มเอ็มส่งพลังฮึดสู้ เคียงข้างคนไทยร่วมสู้โควิด-19” โดยแบรนด์เอ็ม-150 เปิดโอกาสให้นำคะแนนสะสมแต้มเอ็มมาแลกประกันโควิด-19 ความคุ้มครองสูง 100,000 บาท หรือร่วมส่งพลังฮึดสู้ให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศด้วยการนำแต้มเอ็มมาเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคให้แก่โรงพยาบาลต่างๆเพื่อร่วมส่งกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน สำหรับผู้ถือหุ้นนั้น โอสถสภายึดถือความปลอดภัยของผู้ถือหุ้นทุกคน จึงเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 จากวันที่ 29 เมษายน 2563 ออกไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติอย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เผยแพร่รายงานผลประกอบการประจำปี 2562 ตามเวลาที่กำหนด และยังคงยืนยันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 2562 ในวันที่ 24 เมษายน 2563 ในอัตรา 0.65 บาท/ หุ้น ตามที่บริษัทฯได้แจ้งต่อผู้ถือหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงก่อนหน้านี้

นางวรรณิภากล่าวว่า บริษัทฯ ได้นำโซลูชั่นชั้นนำเข้ามาช่วยบริหารซัพพลายเชน จึงสามารถวิเคราะห์สถานการณ์และบริหารจัดการสินค้าคงคลังของเครือข่ายทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานได้อย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงจัดหาคลังสินค้าเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงต้นของการระบาด เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าให้แก่คู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ลืมพลังจากพนักงานทุกคนที่ช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทฯ เดินไปข้างหน้า ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการโควิด-19 ที่มีเป้าหมายในการปกป้องพนักงานและธุรกิจจากโควิด-19 โดยพนักงานทุกคนต้องปลอดภัยจากโควิด-19 และธุรกิจต้องสามารถเดินหน้าได้ตามปกติ ซึ่งคณะทำงานจะประชุมกันทุกเช้าเพื่ออัพเดทสถานการณ์ วางแผน และปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่ตลอด โดยแนวทางหนึ่งที่ได้นำมาใช้เพื่อดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพนักงานและครอบครัว คือให้พนักงาน Work from Home ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นมา โดยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการทำงานนอกสำนักงาน รวมถึงระบบ Microsoft 365 ซึ่งโอสถสภานับเป็นองค์กรแห่งแรกๆ ในประเทศไทยที่นำระบบนี้มาเสริมศักยภาพในการทำงาน

บริษัทฯ ได้เตรียมสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมการเจ็บป่วยจากโควิด-19 เพื่อให้พนักงานอุ่นใจและหมดกังวล สำหรับชุมชนและสังคม โอสถสภาร่วมเคียงข้างคนไทยฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ผ่านโครงการโอสถสภาพลังฮึดสู้เพื่อคนไทย ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือภาคส่วนต่างๆ ต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัส โดยบริษัทฯ ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและสเปรย์แอลกอฮอล์ รวมมูลค่ากว่า 23 ล้านบาทให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังได้ส่งทัพเอ็ม-150 พร้อมผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มลงพื้นที่ลุยภารกิจต่อสู้โควิด-19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทั้งการร่วมภารกิจทำความสะอาดครั้งใหญ่กับทหารบก จิตอาสาพระราชทาน และเจ้าหน้าที่ กทม. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่สาธารณะต่างๆ ในกรุงเทพฯ และมอบถังแช่เย็นพร้อมผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อช่วยเติมพลังและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 และยังได้แจกจ่ายแอลกอฮอล์เจลล้างมือให้แก่ชุมชนรอบๆ โรงงานนางวรรณิภากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image