เดินหน้า6มาตรการช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ “จุรินทร์”สั่งพาณิชย์จังหวัดทำตัวเป็นเซลส์แมน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ปี 2563  ว่า มาตรการช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ เกษตรกร ล้ง(พ่อค้ารวบรวมสินค้า) ผู้ประกอบการตลาด และผู้ส่งออก ซึ่งได้กำหนด 6 มาตรการ ประกอบด้วย 1. ในส่วนของชาวสวน มีมาตรการเร่งรัดให้กระทรวงเกษตรฯออกใบรับรอง GAP ที่สวนปลูกผลไม้ เพื่อรับรองมาตรฐานและให้มั่นต่อการส่งออก เน้นเรื่องคุณภาพ การปรับปรุงแรงงานและคัดคนจัดเก็บผลไม้ตามพื้นที่ตามเขต

มาตรการที่2 คือ ช่วยเหลือสภาพคล่องของล้งผู้รวบรวมผลไม้ที่เข้าโครงการ โดยคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) เห็นชอบช่วยเหลือกิโลกรัมละ 3 บาท ระยะเวลา 6 เดือน สำหรับสหกรณ์ที่เข้าโครงการจะได้รับเงินชดเชยดอกเบี้ย 3% เป็นเวลา 6 เดือน และช่วยค่าบริหารรวบรวมเพื่อการส่งออกกิโลกรัมละ 5 บาท

มาตรการที่ 3 สำหรับผู้ประกอบการที่มาทำสัญญาตามพระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญา จะมีการช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ที่มาทำสัญญาระยะยาวกับเกษตรกรร้อยละ 3 เป็นเวลา 6 เดือน มีงบประมาณตั้งไว้เรียบร้อย แล้วสำหรับฤดูกาลผลิตนี้ มาตรการที่ 4 สำหรับผู้แปรรูปผลไม้มีมาตรการในการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3%  เป็นเวลา 10 เดือนให้กับผู้แปรรูปผลไม้ในฤดูกาลผลิตนี้

มาตรการที่ 5 คือผู้ประกอบการตลาดในประเทศ ประกอบด้วยสหกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีอยู่ 800 แห่งทั่วประเทศจะสนับสนุนให้ใช้คาราวานรถธงฟ้าเพื่อช่วยกระจายไปทั่วประเทศแล้ว จะมีมาตรการในการรณรงค์เพิ่มการบริโภคในโอกาสเทศกาลต่างๆเพิ่มช่องทางในเรื่องของการค้าออนไลน์ด้วย

Advertisement

มาตรการที่ 6 คือกลุ่มผู้ส่งออกสำหรับกลุ่มผู้ส่งออกนั้นจะมีมาตรการในการที่จะช่วยดำเนินการที่กระทรวงพาณิชย์เป็นตัวกลางจัดเวทีพบปะกันระหว่างผู้นำเข้าผลไม้ของต่างประเทศ กับ ผู้ส่งออกของไทย โดยพบกันบนออนไลน์ เพื่อที่จะสามารถส่งออกผลไม้ได้มากขึ้นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการรวมทั้งการเตรียมแพลตฟอร์มต่างๆที่มีศักยภาพระดับโลกเช่น Tmall ของจีน bigbasket.com ของอินเดียAmazon.com ที่สิงคโปร์ และ jatujakmall.com รวมทั้ง cloudcommerce.com ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น เป็นช่องทางหนึ่งที่เราจะระบายไปยังตลาดต่างประเทศ

“ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทูตพาณิชย์ ผมได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เซลล์แมนผลไม้ประเทศในการช่วยระบายผลไม้จากประเทศไทยไปสู่ประเทศในความรับผิดชอบของทูตพาณิชย์  ส่วนในประเทศ พาณิชย์จังหวัดจะต้องทำหน้าที่เซลล์แมนผลไม้จังหวัดเพื่อจัดออเดอร์ไปยังจังหวัดที่มีผลไม้ออกมาก เพื่อเพิ่มการบริโภคในจังหวัดและข้ามจังหวัด เช่น ลองกองจากนราธิวาสไปขายที่อีสาน มะม่วงจากอีสานขายในกรุงเทพ  โดยเน้นระบายผ่านตลาดอ๊อฟไลน์และตลาดออนไลน์ เข้ามาช่วยเสริม เบื้องต้นหารือกับไปรษณีย์ไทย จะช่วยบริการอย่างน้อย 200 ตัน ไม่คิดค่าขนส่ง โดยให้สหกรณ์วิสาหกิจชุมชนเกษตรกร สามารถขายผลไม้ผ่านไปรษณีย์ ใช้ชื่อว่า “ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image