ฟังเสียงสะท้อนเอกชน ‘คลายล็อก’แค่ไหนถึงจะดี

ฟังเสียงสะท้อนเอกชน ‘คลายล็อก’แค่ไหนถึงจะดี

หมายเหตุ – ความเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนในจังหวัดต่างๆ ถึงรัฐบาล กับแนวคิดการคลายล็อกหรือรีสตาร์ตธุรกิจให้เปิดบริการได้ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มจะคลี่คลายลง รวมทั้งแนวคิดการเชิญมหาเศรษฐีในประเทศไทย 20 อันดับมาหารือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม

วโรดม ปิฏกานนท์
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

น่าจะเริ่มที่กิจการที่มีกิจกรรมซื้อขายประจำวันมากกว่าธุรกิจตัวอื่น อาทิ ร้านตัดผม เสริมสวย ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า และร้านอาหาร มีคนเข้าออกและใช้บริการทุกวัน เราเพิ่งมีการหารือกันว่าเขาจะมีความเข้มงวดและมีมาตรการชัดเจนในเรื่องความสะอาดอย่างไรบ้าง ทางร้านตัดผมและร้านเสริมสวยแจ้งว่า จะมีการควบคุมในเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยทั้งคนตัดและลูกค้า ไม่กันจอน มีการจองคิวล่วงหน้า เว้นระยะห่างในระหว่างรอคิว และลงบันทึกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อง่ายต่อการติดตามตัวลูกค้า เพราะตอนนี้เราได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะไม่มีรายได้เลย ขณะที่ร้านอาหาร ต้องเป็นร้านที่มีความโปร่ง โล่ง มีอากาศและลมพัดถ่ายเทได้ดี ไม่มีแอร์คอนดิชั่น โต๊ะต้องตั้งห่างกัน 2-3 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

Advertisement

ตอนนี้ปัญหาเกิดในธุรกิจทุกกลุ่ม หนักหน่อยก็พวกเอสเอ็มอี แม้รัฐบาลจะมีมาตรการพักชำระหนี้จากธนาคาร แต่ก็ไม่เหมือนกันทุกธนาคาร บางแห่งพักทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย บางแห่งพักต้นแต่ไม่พักดอกเบื้ย บางแห่งไม่สนใจเลย สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ เงินทุนหมุนเวียน เพราะจากยอดขายที่เคยได้ แต่ปัจจุบันทุกอย่างคือศูนย์ แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ธรรมชาติของธุรกิจหาก
ทุกอย่างเป็นศูนย์ ก็คือการปิดกิจการแน่นอน เพราะซอฟต์โลนที่ออกมากลุ่มเอสเอ็มอีเข้าถึงยากมาก ธนาคารเฉพาะกิจและไม่เฉพาะกิจมีเงื่อนไขสูงมาก

สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือการปรับรูปแบบการค้าขาย ไปสู่ไดรฟ์ทรู ออนไลน์ โกดังเล็กๆ เพราะโชว์รูมถูกปิดตาย ร้านอาหารที่เคยขายดีก็ขายไม่ได้ แม้จะผันตัวไปตามภาวะสู่ระบบแกร็บฟู้ด หรือแพนด้าฟู้ด มาช่วย แต่ยอดขายก็ตกลงไปถึง 70-80% ทำได้เพียงประคับประคองธุรกิจตัวเองเอาไว้ ถ้าไม่ไหวก็จบ

ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ

ธุรกิจที่ควรปลดล็อกก่อนคือธุรกิจที่ไม่เสี่ยงกับการแพร่เชื้อ และมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการดำรงชีพของประชาชน เช่น ธุรกิจร้านตัดผมที่โดนปิด ควรเปิดโดยอาจจะใช้ระบบจองคิว ลูกค้าใช้ผ้าปิดจมูก ผู้ให้บริการปิดจมูก ลูกค้าอยู่ในร้านนั่งห่างกัน ตามระยะที่กำหนด ตลาดสดหรือตลาดชุมชนโดนปิดไป อาจจะให้เปิดโดยจัดระยะห่างแต่ละร้านเพิ่มขึ้น ผู้คนไปซื้อของ ผู้ขายในตลาดให้สวมหน้ากาก ร้านอาหารนั่งกินให้เปิดได้จัดในร้านให้มีโต๊ะระยะห่างหน่อย ก่อนเข้าร้านให้ล้างมือโดยใช้เจล รถขนส่งสาธารณะให้สามารถเปิดให้บริการได้ คนขึ้นรถให้ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง 1 ช่องเบาะ จะบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนให้สามารถดำรงชีพ เกิดการค้าขายเงินหมุนในระบบเพิ่มขึ้นได้ จังหวัดที่ล็อกดาวน์ถ้าไม่มีเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่มีผู้ติดเชื้อให้สามารถปลดล็อก ผู้คนใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่มาตรการคัดกรองยังคงไว้

กลุ่มเอสเอ็มอีเป็นกลุ่มที่กระทบมากสุด การเข้าถึงแหล่งเงินทุนยากมาก ถึงแม้จะมีมาตรการต่างๆ ออกมามากมาย แต่ตัวที่เป็นตัวปิดกั้นไม่ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้คือเครดิตบูโร หลายสถานประกอบการ ผู้ประกอบการติดเครดิตบูโรไม่สามารถเข้าถึงได้ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินของธนาคาร รัฐควรยกเว้นไม่เก็บประวัติบูโรหรือออกมาตรการให้ธนาคารไม่ให้ตรวจสอบบูโรเป็นระยะเวลา 2 ปีอย่างน้อยเพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินได้ ไม่ติดเงื่อนไขเครดิตบูโร

รัฐควรออกคำสั่งให้ทุกธนาคารไม่ว่าจะของรัฐหรือเอกชนเลื่อนเก็บ การชำระหนี้ของทุกสินเชื่อทั้งปกติหรือทั้งปรับโครงสร้างหนี้ออกไปอย่างน้อย 6 เดือนโดยไม่มีเงื่อนไข เสมือนยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่ให้เกิดดอกเบี้ยเกิดขึ้น

โครงการขุดคลอง ลอกหนอง ก่อสร้าง ตัดถนน งบซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้โยกมาเปลี่ยนเป็นการเยียวยาประชาชนดูแลปัจจัย 4 ให้ประชาชนก่อน งบซื้อเมล็ดผัก เอาเมล็ดผักแจกให้เปลี่ยนเป็นเอาข้าวแจก เอาของแห้งแจกก่อน เพราะให้เมล็ดพันธุ์มา กว่าจะปลูกกว่าจะได้กินไม่ต่ำ 45 วัน คนไม่มีที่ดินไม่ได้ประโยชน์ ปลูกมาเสียหายไม่เกิดประโยชน์เสียเงินเปล่า

แบ่งเงินส่วนหนึ่งไปกระตุ้นเอสเอ็มอีให้เกิดการจ้างงานประกอบกิจการโดยกิจการไหนจ้างงานใน 3 เดือนนี้ รัฐสนับสนุนค่าแรงงาน 20% หรือดูตามกิจการที่เกี่ยวข้องในการแก้ใขเยียวยาปัญหาโควิด อาจจะสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อเกิดงาน เกิดการจ้างงาน เกิดการผลิต ประชาชนจะได้ไม่ต้องพึ่งรัฐเพียงอย่างเดียว การจะไม่เช็กเครดิตบูโรอาจจะมีเงื่อนไข อาจจะไม่เกิน 1,000,000 บาท ไม่เช็กบูโร เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึง เดินหน้าทำธุรกิจได้

กรกฎ เตติรานนท์
ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช

การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในเวลานี้กำลังเตรียมความพร้อมในเรื่องของแผน เราต้องดูสถานการณ์ในวันที่ 30 เมษายนนี้ก่อนว่า ความพร้อมของประเทศไทยสามารถก้าวต่อไปจนสามารถปลดล็อกได้หรือไม่ มองว่าเวลานี้เป็นเพียงเรื่องการเตรียมความพร้อม และวางแผนไว้รองรับของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ละหน่วยงานก็มีแผนเตรียมรองรับไว้มากมายหลายแผน แต่สิ่งหนึ่งที่ภาคเอกชนยังเฝ้ารออยู่ ทั้งพระราชกฤษฎีกาหรือ พ.ร.ก.ต่างๆ ยังไม่ออก ไม่ประกาศ ยังไม่มีการขยับใดๆ เหมือนเป็นเรื่องของนามธรรมมากกว่าจะเป็นรูปธรรม นโยบายต่างๆ ก็ยังไม่เกิด และขณะนี้เชื่อว่ายังอยู่ในรูปของกระบวนการอยู่เลย ดังนั้น จึงต้องรอให้ถึงวันที่ 30 เมษายนก่อน

การที่รัฐบาลเรียกเจ้าสัวเข้ามาคุยเป็นเรื่องที่ดีเป็นการเอาระดับหัวๆ เข้ามาคุย เพราะคนกลุ่มนี้จะเห็นภาคธุรกิจ เศรษฐกิจชัดเจน กระบวนการจะเกี่ยวเนื่องกับใคร ในเรื่องของการผลิต การตลาด การส่งออกการขนส่ง เป็นต้น ทุกอย่างจึงเป็นภาพรวมของการวางแผน

อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายต่างๆ ออกมารับลูกด้วย รับลูกอย่างเดียวไม่พอ จะต้องมีความเร่งด่วนด้วย และจริงจัง ทั้งนโยบายและการปฏิบัติ แผนและกระบวนการข้างบนคิดดี ทำดี ให้กำลังใจในการทำงาน ใครก็ตามที่เป็นผู้นำในตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นผู้เสียสละ เป็นคนที่เหนื่อยแน่ๆ ต้องทำถูกทำผิดในเวลานี้ ต้องยอมรับทั้งคุณและโทษไปเต็มๆ วันนี้ปัญหาที่เกิดไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ผลักภาระกันไม่ได้ วันนี้หลายหน่วยงานที่ยังตั้งกำแพง ปิดประตูตัวเองอยู่ คุณไม่ใช่ฟันเฟืองของประเทศ

ต้องยอมรับทุกพื้นที่กิจกรรมทางการค้าลดลง เศรษฐกิจลดลงกว่า 60% แต่ละพื้นที่ที่เปิดกิจกรรมให้เครื่องจักรเคลื่อนไหว ก็เพื่อการบริโภคภายใน กระตุ้นการใช้จ่ายประจำวันเท่านั้น เราตัดภาพการลงทุนออกไปได้เลย การขยายงานก็จะหยุดหมด ในช่วงสั้น กลาง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ รถยนต์ที่เราเดิน 4 ล้อ วันนี้เดินได้เพียงล้อเดียว คือการบริโภคภายในเท่านั้น แม้กระทั่งการใช้จ่ายภาครัฐในเวลานี้ก็ยังมีปัญหา งบประมาณการใช้จ่ายก็ยังไม่มีความชัดเจนเช่นกัน

วันนี้ความสำคัญของเศรษฐกิจ กับความสำคัญของชีวิตประชาชน มันเอามาเทียบกันไม่ได้ แต่ปัญหาที่เรากำลังมองหากเราให้น้ำหนักไปทางใดทางหนึ่งมากจนเกินไปมันก็จะเสียสมดุล วันนี้เราจึงต้องรักษาชีวิตคนให้ได้ เพราะบุคลากรที่ประเทศจะต้องสูญเสียไป อาจจะเป็นคนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาของประเทศได้ รัฐบาลเองก็กำลังแก้ไขปัญหาเรื่องชีวิตมาเป็นอันดับแรก แล้ววางแผนเรื่องเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน จึงจะก้าวผ่านออกมาได้ เชื่อหากทุกหน่วยงานเปิดประตูออกมาพร้อมเป็นฟันเฟืองของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี

ตระการ คุณาวุฒิ
รองประธานหอการค้าจังหวัดพิจิตร

กรณี ศบค.จะผ่อนปรนเรื่องธุรกิจ เห็นด้วยขณะนี้ถึงเวลาควรจะผ่อนปรน ให้ประชาชนออกมาหากินกันได้แล้ว เพื่อหารายได้ มาเพื่อเอามาเป็นรายได้ค่าใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าน้ำค่าไฟต้องมีรายจ่ายประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารควรจะให้เขาเปิดค้าขายเป็นปกติ เพียงแต่จะต้องจัดระเบียบ ให้นั่งระยะห่างกันตามกำหนดให้มากขึ้น อย่าลืมว่าร้านอาหารสั่ง ให้ขายเฉพาะสั่งซื้อกับไปกินบ้าน ไม่สะดวกกับคนทำงาน อย่างเช่น ร้านอาหารต่างจังหวัดนั้น ร้านอาหารจะขายได้ แต่กลางวันและเย็น เพราะประชาชนต้องรีบซื้อต้องรีบเข้าบ้าน เพราะกลัว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากจะผ่อนปรนคือให้ประชาชนมาซื้อและนั่งรับประทานได้ในร้านอาหารตามปกติ แต่ต้องเว้นระยะห่าง

อยากบอกว่า อย่าหวั่นวิตก ในเรื่องของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ให้มากนัก เชื่อว่ายังไงเชื้อโควิด-19 ไม่ตายจากโลกนี้ เราจะต้องปรับตัวให้อยู่กับมันให้ได้ ถ้าคิดว่ามาตรฐานตรงที่ว่าจะปราบโควิดให้หมดจากโลกนี้ ถึงจะเปิดให้ประชาชนทำมาหากิน มองว่าคิดผิด เพราะจะทำให้เศรษฐกิจล้มเหลวประชาชนจะอดอยาก ประชาชนจะเป็นหนี้สิน ดังนั้น อย่าไปหวั่นวิตก ควรปรับตัวและให้ความรู้ประชาชนให้มากขึ้น ดังนั้น ควรให้ประชาชนออกมาทำมาหากินกันได้แล้ว ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีหากินฝืดเคือง รัฐบาลจะรู้หรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลควรรีบหาวิธีจัดการในเรื่องนี้ได้แล้ว อย่าปล่อยให้ประชาชนอดตาย

การที่รัฐบาลให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยนั้น ควรปฏิบัติและต้องทำตาม ดีอยู่แล้ว เชื่อว่าประชาชนเขาระวังตัวกันดีอยู่
แล้ว การที่มาปิดเมืองต่างๆ นั้น มองว่าไม่สะดวก ใครจะค้าขายไปยังต่างจังหวัดไม่ได้ มันลำบาก ดังนั้น ควรผ่อนปรน ไม่ปิดเมืองกันได้แล้ว

การที่นายกรัฐมนตรีจะมีหนังสือเชิญนักธุรกิจ เป็นคนรวยมาพูดคุยนั้น ควรเอาคนจนมาร่วมพูดคุยด้วย อย่าเอาแต่คนรวยมาพูดคุยอย่างเดียว รัฐบาลนั้น คณะทีมเศรษฐกิจหมดความสามารถแล้วหรือไร ถึงได้ไปเชิญคนรวยมาปรึกษาหารือ ทีมเศรษฐกิจไปไหนกันหมด คณะยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หายไปไหน ทำไมไม่มาช่วยกันคิด ทำไมไม่ออกมาช่วยกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image