ทหารสังกัด สห.มทบ.14 ยิงพ่อตาดับ
ตั้งแต่เวลา 17.00 น.วันที่ 19 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่จากกองสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อมรถเก๋ง ฟอร์ดสีขาว ทะเบียน 1 กฮ 9585 กทม. ที่ภายในมีพลอาสาสมัคร ภูเบศร์ กลิ่นพราม อายุ 37 ปี ที่หลังจากห่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายประเสริฐ สิงห์เรือง อายุ 61 ปี เป็นอดีตนายกสโมสรโรตารี่เอราวัณ สมุทรปราการ และเป็นพ่อตาของพลอาสาสมัคร ภูเบศร์ เองภายในบ้านพัก ในหมู่บ้านทรัพย์ยั่งยืน ซอย 5 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ แล้วพยายามขับรถคันดังกล่าวหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตามมาระงับเหตุ และยิงยางรถของผู้ก่อเหตุจนแบน จนต้องจอดขวางหน้าปากซอยไว้ จนทำให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกยิงด้านในบ้านได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ไม่มีทีท่าว่าพลอาสาสมัคร ภูเบศร์ จะยินยอมมอบตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังพี่สาวของผู้ก่อเหตุมาช่วยเกลี้ยกล่อม ทางด้านพลอาสาสมัคร ภูเบศร์ จนยอมออกจากรถ และเข้ามอบตัว โดยมีพี่สาวของผู้ก่อเหตุคอยกันนักข่าวไม่ให้ถ่ายภาพของน้องชายที่เพิ่งจะยิงพ่อตาเสียชีวิตคาบ้านพัก
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุเคยเป็นลูกเขยของผู้ตาย โดยได้อยู่กินกันกับลูกสาวผู้ตาย กระทั่งมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ทั้งคู่ก็มีเรื่องต้องแยกทางกันได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งการแยกทางของทั้งคู่ก็มีพี่สาวของผู้ก่อเหตุ มาช่วยเจรจาและพากันไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักกันมาแล้ว กระทั่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาพลอาสาสมัคร ภูเบศร์ ผู้ก่อเหตุเดินทางมาบ้านพ่อตาพร้อมกับลูกคนเล็ก เพื่อจะมาหาภรรยาและพยายามเข้าไปในบ้าน แต่ทางฝ่ายพ่อตาไม่ให้เข้าบ้าน ทางผู้ก่อเหตุจึงชักเอาอาวุธปืนที่ซุกอยู่ในกระเป๋าสะพายออกมาไล่ยิงใส่ผู้ตายไป 4 นัด จากนั้นได้เดินมาบอกกับทางภรรยาว่า “ไปดูพ่อมึงด้วย กูยิงพ่อมึงตายแล้ว”
จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถถอยออกจากซอยที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ขี่รถจักรยานยนต์มาตรวจสอบเหตุพอดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรยจจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางรถของผู้ก่อเหตุ จนยางแบน ผู้ก่อเหตุจึงจอดรถติดเครื่องยนต์ นอนนิ่งอยู่ภายในรถ ไม่แสดงอาการโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ส่งกำลังเสริม เข้ามาติดล้อมพร้อมอาวุธครบมือ ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะพยายามถามความต้องการของผู้ก่อเหตุ หรือเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ผ่านเครื่องขยายเสียง
กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง จนเหตุการณ์เริ่มตึงเครียด เพราะเป็นเวลาที่เริ่มมืดแล้ว การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ จึงต้องรัดกุมขึ้น และที่สำคัญความปอดภัยของทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนั้นสำคัญที่สุด จึงได้ติดต่อไปทางพี่สาวของผู้ก่อเหตุให้เข้ามาเกลี้ยกล่อม จนในที่สุดก็เป็นไปตามแผน ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัวทันทีที่ได้ยินเสียงพี่สาว
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำการสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ และทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบร่างของนายประเสริฐ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ตามศีรษะ ลำคอ และลำตัว รวม 7 แผล นอนเสียชีวิตอยู่ที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ส่วนแม่ยายถูกกระสุนถากเข้าที่แขน ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ส่วนสาเหตุการก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนผู้ก่อเหตุอีกครั้ง โดยยังไม่สามารถสอบสวนได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังมีอาการเครียดจัด
