นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ว่า กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 โดยกำหมายบัญญัติให้มีการจัดตั้งสำนักคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และออกระเบียบและกฎหมายลูกในการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายไม่สามารถเลื่อนการมีผลบังคับใช้ออกไปได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เห็นตรงกับหลายฝ่ายว่าควรหาช่องทางบรรเทาการบังคับใช้ด้วยการยืดระยะเวลาออกไป โดยได้รับฟังข้อเสนอจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) ที่เสนอให้รัฐบาลตราพระราชกฤษฎีกายกเว้นการนำบทบัญญัติของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วนมาบังคับใช้ โดยได้นำเรื่องนี้เข้าหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้และเหตุผลความจำเป็นในการออกพระราชกฤษฎีกา
“เราพยายามจะให้ยืดระยะเวลาออกไป เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะถ้าหากรีบใช้อาจจะไม่เกิดประโยชน์กับทุกคน และความพร้อมทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ต้องปฏิบัติ จะมีปัญหาการสื่อสาร รวมถึงการปรับตัว ก็ยังเป็นปัญหา ในฐานะผู้รักษากฎหมาย จะพยายามปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาทางดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถปฏิบัติตามกฏหมายได้” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ให้ได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมที่เหมาะสมที่สุดก่อนถึงเวลาที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งเชื่อว่าหากตราพระราชกฤษฎีกาให้ยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไปสักระยะหนึ่งจะสามารถดำเนินการที่เหมาะสม ทั้งการสรรหาคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การตั้งสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการออกกฎหมายลูกหรือระเบียบที่จำเป็น เพื่อให้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนำไปบังคับใช้ให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย
