สู้วิกฤตโควิด!! เจ้าของโรงแรมดังเมืองกาญจน์ ขับรถพุ่มพวงขายของชำ-อาหาร
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง โรงแรม และรีสอร์ตได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า เจ้าของกิจการบางแห่งมีความจำเป็นของการปิดกิจการและการเลิกจ้างพนักงาน เนื่องจากแบกรับการจ่ายเงินเดือนของพนักงานไม่ไหว เพราะไม่มีรายได้เลย ส่วนโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งก็เลือกที่จะหยุดกิจการชั่วคราว รวมทั้งโรงแรมเอราวัณปริ๊นเซส, 3199 Mountain Camp และ 3199 คาเฟ่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ส่งผลให้พนักงานจำนวนกว่า 20 คน ต้องกลายเป็นคนว่างงาน ล่าสุดนายธนพล วงศ์พร้อมมูล เจ้าของกิจการหนุ่มวัยเพียง 30 ปี ต้องปรับตัวอย่างกะทันหันจากรีสอร์ต ร้านอาหาร กลายมาเป็น ‘รถพุ่มพวง 3199’ ร้านขายของชำและรถส่งอาหารเคลื่อนที่ที่ยกเอาตลาดสดมาไว้ในรถคันเดียว ตระเวนส่งตรงถึงมือลูกค้าตามชุมชนต่างๆ ในเมืองกาญจน์
นายธนพล เจ้าของโรงแรมเอราวัณปริ๊นเซส และ3199 Mountain Camp กล่าวว่าที่มาของรถพุ่มพวง เกิดจากสถานการณ์โควิด 19 เมื่อต้องหยุดกิจการลงทุกอย่าง ทำให้ตนได้รับรู้ถึงปัญหาของพนักงาน ที่ทุกคนล้วนมีภาระเหมือนเดิม ต้องรับผิดชอบทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในครอบครัวแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราหยุดไม่ได้ ก็ได้แต่คิดหาทางออกว่า แล้วจะไปต่ออย่างไร และคิดว่า ในเมื่อลูกค้ามาหาเราไม่ได้ จะต้องไปหาลูกค้าแทน เริ่มจากการไปดูลู่ทางตามตลอดนัด ประกอบกับที่เคยไปเห็นไอเดียรถพุ่มพวงตามสถานที่ต่างๆ จึงนำกลับมาทำเป็น ‘รถพุ่มพวง 3199’
“เราก็มีพื้นที่สามารถปลูกพืชแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ก็เลยนำพื้นที่นั้นมาทำ โดยให้พนักงานที่มีความสามารถมาช่วยกัน อย่างคนดูแลสวนก็มาดูแลสวนผัก เชฟที่เคยทำอาหารในรีสอร์ตก็เปลี่ยนมาทำอาหารปรุงสำเร็จเป็นข้าวกล่อง แผนกกาแฟสดก็ปรับขบวนการผลิตมาเป็นกาแฟใส่ขวด ก่อนจะนำไปจำหน่ายในราคาถูก ก็ลองผิดลองถูกในช่วงแรกๆหลังจากรถพุ่มพวง 3199 วิ่งขายของได้ประมาณกว่า 10 วัน ผลตอบรับก็ดีพอสมควร บางคนไม่อยากออกไปจ่ายตลาดก็มารอซื้อจากรถพุ่มพวงอยู่ตามหน้าบ้าน ซึ่งจะเป็นผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเราได้ขาย แล้วเขารอเรา ก็รู้สึกมีความสุขกับการทำงาน จึงต้องสู้ต่อไป ส่วนรายได้ที่เข้ามาก็สามารถนำมาชดเชยให้กับพนักงานไปได้บางส่วน”นายธนพลกล่าว
นายธนพลกล่าวต่อวาจะขับรถพุ่มพวง 3199 ตระเวนขายสินค้าในแต่ละวันไม่ซ้ำพื้นที่กัน มีพนักงานต้อนรับที่มีทักษะการพูด ทักษะการดูแลนักท่องเที่ยว ก็ปรับมาเป็นพนักงานประจำท้ายกระบะรถพุ่มพวง โดยจะไปขายตามหมู่บ้านและชุมชน ในพื้นที่ ต.ลาดหญ้า ต.วังด้ง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี รวมถึงพื้นที่ อ.ศรีสวัสดิ์ และ อ.ไทรโยค โดยจะเริ่มออกขายตั้งแต่ช่วง 14.00 น. จนถึง 18.30 น. ของทุกวัน หรือจนของหมด
ส่วนอาการเคอะเขินไม่เคยมีกับตนเอง เพราะเคยค้าขายมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาแล้ว โดยเอาของต่างๆ ไปวงขาย ปัจจุบันก็ชอบเดินตามตลาดนัดบ่อยๆ ในส่วนพนักงานแรกๆ อาจจะมีบ้างเพราะเขาไม่เคยทำอาชีพแบบนี้ แต่เมื่อทุกคนได้ทำแล้วพวกเขาก็รู้สึกดีๆ กับงานที่ทำ ก่อนที่จะพูดคุยกับพนักงานทุกคนบอกจะสู้ไปด้วยกัน จึงไม่ลำบากใจ เพราะทุกคนเข้าใจในสถานการณ์มันหยุดนิ่งไปหมด เราก็มานั่งเปิดอกคุยกันวางแผนร่วมกันทุกคนพร้อมสู้ไปด้วยกัน
“หลังจากวิกฤตโควิด 19 จบลง คิดว่าทำต่อไป เพราะเห็นว่าโมเดลนี้มันไปต่อได้ ซึ่งน่าจะมีโอกาสเป็นอีกอาชีพในอนาคต แต่ต้องบริหารจัดการพนักงานเพิ่มเติม ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ และขอฝากว่า โควิด 19 เข้ามาเป็นบททดสอบเพื่อการปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เพื่อให้เรามีการพัฒนาในสิ่งใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้กับโควิด19 จะได้ผ่านพ้นโดยเร็ววัน” นายธนพล กล่าว
