“อนุทิน” เน้นย้ำพัฒนาวัคซีน “โควิด-19” ไทยต้องเข้าถึงได้ ไม่ใช่ “เป็นมือเป็นไม้ น้ำใต้ศอก” ให้ประเทศอื่น

“อนุทิน” เน้นย้ำพัฒนาวัคซีน “โควิด-19” ไทยต้องเข้าถึงได้ ไม่ใช่ “เป็นมือเป็นไม้ น้ำใต้ศอก” ให้ประเทศอื่น

พัฒนาวัคซีน เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 เนื่องในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 และให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการประชุมหาแนวทางการผลิตและจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งวันนี้ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้เสนอพิมพ์เขียวแผนการจัดทำวัคซีนในส่วนของการร่วมกับหน่วยงานพัฒนาวัคซีนในต่างประเทศนั้นตนได้กำชับเรื่องการทำสัญญากันต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนไม่ให้ไทยเป็นน้ำใต้ศอก หรือเป็นไก่รองบ่อนที่ต้องไปเข้าคิวได้รับวัคซีนเป็นประเทศท้ายๆ แต่การทำสัญญาต้องให้เดินหน้าไปพร้อมกัน ซึ่งสอดคล้องกับงบ 4.5 หมื่นล้านบาทที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพื่อสู้กับโรคโควิด-19 ส่วนเรื่องพิมพ์เขียวเรื่องนี้ตนได้ขอให้ทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน ให้มีทิศทางที่ชัดเจน

“ถ้าถึงวัคซีนได้ จะเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา เราต้องเข้าถึงวัคซีน ไม่ใช่เป็นมือเป็นไม้ให้เขา แล้วถึงเวลาเขาเข้าถึงวัคซีนก่อนเรา โดย สธ.จะให้การสนับสนุนคณะทำงานสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อให้ผู้อำนวยการมีเครื่องมือในการเจรจาการพัฒนาวัคซีน ถึงสถานการณ์ตอนนี้เราควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว รวมถึงมียารักษาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์ก็ระบุว่ายังต้องการวัคซีน คือ ถ้าฉีดแล้วจะไม่เป็นโรค แต่ถ้ามีแค่ยาต้องรอให้เป็นก่อนค่อยกินยา ความกดดันจึงมาอยู่ที่วัคซีน เรื่องของวัคซีนนี้หากไม่มีสถานการณ์ระบาดก็ไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลเท่าไหร่ แต่วันนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งผมได้ชี้แจงไปว่าถ้าจะให้โควิด-19 เลิกรังควานผู้คนเราต้องมีวัคซีนเพื่อป้องกันโรค ซึ่งวันนี้เรามียารักษาโรคให้หายได้ แต่ก็ต้องรอให้ป่วยก่อนถึงจะใช้ยา แต่ถ้ามีวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคได้ และลดความรุนแรงของโรคได้ มันต่างกัน” นายอนุทิน กล่าว

 

Advertisement

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image