ตำรวจสว่างแดนดิน ไล่ล่าข้ามจังหวัด ก่อนวิสามัญคนร้ายควงปืนบุกโชว์รูมรถ หลังพยายามยิงสู้
เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการวิสามัญคนร้ายขณะขับรถหลบหนีใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร ว่า
ได้รับรายงานจาก สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา รับเเจ้งเหตุวิสามัญคนร้ายขณะคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างขับรถหลบหนีการจับกุม บริเวณริมถนนนิตโย (อุดรธานี–สกลนคร) ใกล้กับโรงงานน้ำตาลเริ่มอุดม ต.บ้านยา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปสอบ เมื่อไปถึงพบ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโอเปิ้ล สีส้ม สภาพเก่า ทะเบียน ขก 6816 อุดรธานี จอดอยู่ มีนายจะเด็จ สมสอง อายุ 28 ปี ถูกยิงเสียชีวิต และพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ตกอยู่ภายในรถที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้ตายได้ถืออาวุธปืนบุกรุกเข้าไปภายในโชว์รูมบริษัท นิสสัน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สว่างแดนดิน จึงเข้าไประงับเหตุ และจับกุมตัว แต่ผู้ตายได้ขับรถหลบหนี มุ่งหน้าไปทาง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยระหว่างทางนั้น ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ตลอดเส้นทาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการจับกุมตัว ผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ขัดขวาง จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงป้องกันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ทางคดีพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทำคดีสำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ สำนวนคดีฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันจากการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญผู้ตาย รวมถึงสำนวนคดีบุกรุกที่ผู้ตายไปก่อเหตุที่ อ.สว่างแดนดิน ภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จากนั้นจะมีความเห็นทางคดีส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ให้ระมัดระวัง มีความพร้อมอยู่เสมอ อย่าประมาท ยึดหลักยุทธวิธีตำรวจ ภายใต้กรอบของกฎหมาย และให้มีการฝึกทบทวนการใช้อาวุธอยู่เป็นประจำ รวมถึงการตัดสินใจในภาวะวิกฤต เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น