‘ตรัง’ เตรียมซ่อมโรงยิมสนามกีฬาทุ่งแจ้ง ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามรับผู้ป่วยโควิด

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงยิมเนเซียมขนาด 1,000 ที่นั่ง ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สนามกีฬาทุ่งแจ้ง เขตเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นพ.บรรเจิด พิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ตรัง นางจิรวรรณ อารยะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง ผู้อำนวยการโยธาธิการและผังเมืองตรัง และเจ้าหน้าที่ อบจ.ตรัง เข้าตรวจสอบสถานที่ เพื่อเตรียมใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยโควิด-19 แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยตรัง (มทร.) ที่ถูกกำหนดไว้เดิม แต่เนื่องจากระยะทางห่างไกล ไม่สะดวกหากจะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาล จึงต้องจัดเตรียมพื้นที่ภายในโรงยิมเนเซียม สนามกีฬาทุ่งแจ้งแทน โดยภาย มทร.จะใช้เป็นพื้นที่กักกันกลางคนตรังที่เดินทางกลับจากต่างประเทศต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอาคารอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ลานแข่งขันกีฬามีความกว้างเพียงพอในการทำโรงพยาบาลสนาม ทั้งนี้ สามารถรองรับได้ประมาณ 100 เตียง แต่บริเวณโดยรอบผุพัง ชำรุดทรุดโทรมจะต้องทำการปรับปรุงซ่อมแซมในหลายจุด ทั้งพื้นไม้ปาเกต์ พื้น ฝ้าเพดาน หลังคา ประตู ห้องน้ำ ระบบน้ำ รวมทั้งสีรอบตัวอาคาร โดยหน่วยงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรังจะเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ ได้รับงบประมาณจาก อบจ.ตรัง จำนวน 5 ล้านบาทเศษ ในการทำโรงพยาบาลสนามครั้งนี้ เริ่มต้นจะต้องทำก่อนจำนวน 30 เตียง แบ่งเป็นหญิง 15 เตียง และชาย 15 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ยืนยันผลตรวจติดเชื้อแล้วเท่านั้น แต่อาการยังไม่มาก ทั้งนี้ หากมากก็จะต้องส่งไปรักษาที่ รพ.ที่มีอุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัย

นพ.บรรเจิด พิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ตรัง (โทรถามทางโทรศัพท์) กล่าวว่า เหตุผลที่จังหวัดตรังยังจะต้องจัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 แม้ว่าจังหวัดตรังมีพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มานานถึง 17 วันแล้วก็ตาม (ผู้ป่วยสะสม 7 ราย หายหมดแล้ว) เนื่องจากยังอยู่ในภาวะความเสี่ยงของการระบาด เนื่องจากจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน และนับจากจังหวัดสงขลาลงไปพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ยังเป็นพื้นที่สีแดง ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เป็นระยะๆ และยังพบกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวนมาก โดย ณ เวลานี้ในความเป็นจริงโรคยังไม่หมดไปจากจังหวัดตรัง เพียงแต่ว่าที่ยังไม่เข้ามาเพราะมาตรการของจังหวัดตรังเข้มข้น ตัวเลขเราจึงยังคงที่ ซึ่งเหมือนจะจบแล้ว แต่ถ้าเราเปิดด่าน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่อาจจะต้องผ่อนคลายลงหลังวันที่ 30 เมษายนนี้ ซึ่งถ้าคลายแล้วคุมได้ก็ไม่เป็นไร แต่หากคุมไม่ได้ก็น่าเป็นห่วง เพราะยังอยู่ในภาวะเสี่ยง ทั้งนี้ หากคลายด่านก็ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการในการสำรวจคนที่เข้ามาในหมู่บ้าน

Advertisement

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image