วันที่ 26 เมษายน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการเราไม่ทิ้งกันของรัฐบาลว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังพยายามที่จะเร่งรัดให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยส่งเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการยืนยันสิทธิ์ของผู้ลงทะเบียนไว้ ซึ่งทางรัฐบาลได้ประกาศว่า สามารถเยียวยาได้ทั้งหมดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 9 ล้านครัวเรือนนั้น รัฐบาลกำหนดไว้ภายในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้เช่นกัน โดยการเยียวยาให้ครัวเรือนละ 15,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ รัฐบาลตั้งเป้าจะเยียวยาให้เสร็จภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งอาจจะล่าช้าเกินไป ไม่ทันต่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
อยากให้รัฐบาลตีความคำว่า “เยียวยา” ในความหมายนี้ก็คือการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทันที แต่เมื่อรัฐบาลกำหนดให้การเยียวยาเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคม ต้องใช้เวลา 2 เดือน จึงไม่สามารถใช้คำว่าเยียวยาได้ ในลักษณะเช่นนี้จะต้องเรียกว่าเป็น “การชดเชย” ผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนมากกว่า เพราะฉนั้นการเยียวยากับการชดเชยจึงมีความหมายที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นการเยียวยาต้องช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในทันทีทันใด ส่วนการชดเชยนั้นสามารถจ่ายย้อนหลังได้ ถ้ารัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนย้อนหลัง2เดือนนั้น ต้องเรียกว่าการชดเชย ไม่ใช่การเยียวยา
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยากให้รัฐบาลเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้จำนวน 14 ล้านคนให้เร็วที่สุด และเยียวยาเกษตรกรจำนวน 9 ล้านครัวเรือน ก็ควรจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดเช่นกัน เพราะในขณะนี้เกษตรกรหลายครัวเรือน ประสบปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ บางแห่งไม่มีพ่อค้ารับซื้อผลิตผลทางการเกษตรเลย ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันลดเหลือ กก.ละ 2.50 บาท และยางพารา กก.ละ 35 บาท แม้รัฐบาลจะมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรแล้วก็ตาม แต่เป็นเพียงนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น ไม่สามารถทำให้ราคาผลิตผลทางการเกษตรขายในราคาสูงตามความต้องการได้ ซึ่งเกษตรกรโดยทั่วไป ต้องการให้ราคาพืชผลการเกษตรในท้องตลาดสูงขึ้นอย่างน้อยเท่ากับราคาการประกันรายได้ของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถอยู่รอดและลืมตาอ้าปากได้ อีกทั้งเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่นำมาจ่ายส่วนต่างของรัฐบาลได้ด้วย
“จึงขอเสนอให้รัฐบาลเข้ามาดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในทุกสาขาอาชีพ โดยไม่มีเลือกปฏิบัติ และไม่มั่นใจว่าวิธีการของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จะครอบคลุมถึงพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ทุกคนหรือไม่ ไม่อยากเห็นประชาชนคนไทย กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องเสียโอกาส และตกอยู่ในสภาพอดอยาก อดตาย และแก้ปัญหาชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ซึ่งกำลังปรากฎเป็นข่าวว่า มีการฆ่าตัวตายรายวันอยู่ในขณะนี้” นายเทพไท กล่าว
