‘เอไอเอส’ จับมือพันธมิตร ตั้งศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์ ช่วยธุรกิจไทยโดนภัยไซเบอร์คุกคาม

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทุกวันนี้การโจมตีหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยมีกลุ่มองค์กรและภาคธุรกิจตกเป็นเป้าหมายหลัก ยิ่งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทุกองค์กรต่างปรับตัวให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) พนักงานบางส่วนอาจมีความจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบของบริษัท จุดนี้กลับกลายเป็นช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงให้เกิดภัยไซเบอร์ตามมาโดยจากการสำรวจพบว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์ทั่วโลกในเดือนมีนาคม 2563 เพิ่มสูงขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยองค์กรและธุรกิจที่เวิร์กฟรอมโฮมถูกโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้นกว่า 127% และคาดว่าอาชญากรรมทางไซเบอร์ทั่วโลกจะสร้างความเสียหายมากกว่า 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564

ขณะเดียวกัน ภาครัฐได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความปลอดภัยมั่นคงไซเบอร์ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เพื่อให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์กรที่อยู่ในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ ประกอบด้วยกลุ่มความมั่นคงและบริการภาครัฐ, กลุ่มการเงิน, กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม, กลุ่มการขนส่งและโลจิสติกส์, กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค และกลุ่มสาธารณสุขให้ความสำคัญต่อการจัดระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลความปลอดภัยข้อมูล ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า เอไอเอสบิซิเนส ในฐานะผู้นำบริการไอซีที เพื่อองค์กรครบวงจรเรามีความห่วงใยต่อสถานการณ์ภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้น จึงได้พัฒนาโซลูชั่นและบริการ เอไอเอส ไซเบอร์ ซีเคียว เพื่อดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะด้วยการเปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ หรือซีเอสโอซี ขึ้น ภายใต้ความร่วมมือกับทรัสเวฟ บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์อันดับต้นของโลกพร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของเอไอเอสในการดูแลความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับลูกค้าเอไอเอสทั้งฐาน ตลอดจนเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจจับ แจ้งเตือน และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกองค์กรสามารถเดินหน้าทำงาน ทำธุรกิจ ได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวลเรื่องภัยไซเบอร์ เพราะมีเอไอเอสบิซิเนส เป็นผู้ดูแลให้แล้ว

นอกจากนี้ กลุ่มบริการเอไอเอส ไซเบอร์ ซีเคียว ยังมีหลายโซลูชันส์ที่พร้อมให้เลือกกำหนด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละองค์กร อาทิ เครื่องมือช่วยบริหารจัดการการใช้งานบนมือถือให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท, เครื่องมือที่เชื่อถือได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ, ศูนย์รวมการจัดเก็บข้อมูลการใช้อินเตอร์เน็ตตามกฎหมาย และค้นหาช่องโหว่และจุดอ่อนในเครือข่ายขององค์กรพร้อมทำหน้าที่เสมือนเป็นแฮกเกอร์เพื่อวินิจฉัยช่องโหว่ที่อาจมีอยู่ เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลและป้องกันจากแฮกเกอร์

Advertisement

“เชื่อว่า ขณะนี้และในอนาคตอันใกล้หลังสถานการณ์โควิด-19 ระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น การดำเนินธุรกิจเกือบทั้งหมดจะถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่บนโลกออนไลน์ ดังนั้น เรื่องไซเบอร์ซีเคียวริตี้ จะถูกยกระดับความสำคัญ กลายเป็นความปกติในรูปแบบใหม่ (นิวนอมอล) พื้นฐานหลักในการดำเนินธุรกิจที่ทุกองค์กรต้องมี เพราะการมีระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็ง เชื่อถือได้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กรและธุรกิจอย่างแน่นอน” นายยงสิทธิ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image