สมอ.สนองเอกชน เปิดให้ยื่นขอใบอนุญาต มอก. ทางออนไลน์ได้ทุกมาตรฐานกว่า 2,200 ผลิตภัณฑ์ พร้อมยกเว้นการตรวจโรงงานจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ร่วมประชุมหารือกับภาคเอกชน เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เพื่อให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และให้ทุกหน่วยงานรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปดำเนินการ นั้น สมอ. ขานรับนโยบายดังกล่าวโดยออกมาตรการที่ให้บริการได้ทันที ดังนี้1.มาตรการการขอใบอนุญาตผ่านระบบออนไลน์ โดย สมอ. ได้เปิดให้บริการยื่นขอใบอนุญาต มอก. ทางออนไลน์ผ่านระบบ e-License กับทุกมาตรฐาน ซึ่งผู้ประกอบการสามารถดําเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ https://www.itisi.go.th ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยสามารถยื่นขอได้ทุกมาตรฐาน จํานวนทั้งสิ้นกว่า 2,284 มาตรฐาน
2.มาตรการยกเว้นการตรวจโรงงาน ประกอบด้วย การออกใบอนุญาตโดยไม่ต้องตรวจโรงงาน แต่จะต้องตรวจสอบตัวอย่างสินค้า ทั้งนี้ ได้ออกใบอนุญาตแบบเฉพาะครั้งนี้ไปแล้ว จำนวน 266 ใบอนุญาต มูลค่ากว่า 543 ล้านบาท การตรวจติดตามโดยไม่ต้องตรวจโรงงาน โดยให้ผู้รับใบอนุญาตรับรองตนเอง ด้วยการส่งข้อมูลผลการตรวจคุณภาพ ผลทดสอบผลิตภัณฑ์และผลการสอบเทียบเครื่องมือ ผ่านระบบ e-Surveillance ของ สมอ. โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ มีผู้รับรองตนเองผ่านระบบดังกล่าวแล้วจำนวนกว่า 300 ราย การออกใบรับรองระบบงานโดยไม่ออกไปตรวจสถานที่ แต่ใช้การตรวจประเมินทางไกล หรือการรับรองตนเอง แทน รวมถึงการตรวจประเมินมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 ซึ่งเป็นมาตรฐานห้องแล็ปที่กำลังจะมีการปรับเปลี่ยนเวอร์ชั่นในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าต่อผู้ประกอบการ ทั้งนี้ สามารถดูรูปแบบการตรวจประเมินเพื่อขอรับใบรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการ หน่วยตรวจ และหน่วยรับรอง ได้ที่ www.facebook.com/tisiofficial
“นอกจาก 2 มาตรการ ที่ สมอ. ได้เปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการได้ทันทีแล้ว ก่อนหน้านี้ สมอ. ยังได้เสนอมาตรการชดเชยและเยียวยาผู้ประกอบการให้ ครม. เพื่อขอความเห็นชอบในการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ พร้อมทั้ง เยียวยาผู้ประกอบการในเรื่องค่าตรวจสอบโรงงานและค่าตรวจสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์ รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทไปแล้ว ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการดังกล่าวข้างต้น จะสามารถช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภายใต้สถานการณ์โควิด- 19 ให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง”นายวันชัยกล่าว