บทนำ : รีสตาร์ตแก้ปากท้อง

บทนำ : รีสตาร์ตแก้ปากท้อง : ประจำวันพุธที่ 29 เมษายน 2563

ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจจาก นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ถึงแนวทางการเปิดสถานบริการบางชนิดในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่าควรเริ่มเปิดกิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน ควรจะเปิดได้ในทุกจังหวัด เช่น ร้านตัดผม ร้านอาหาร ร้านขายสินค้า เป็นการดูความเสี่ยงจากลักษณะของกิจการ มากกว่าความเสี่ยงของจังหวัด ส่วนใน 9 จังหวัดที่ไม่มีโรคระบาดเลย อาจจะอนุญาตให้เปิดเร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องฟังมติจากคณะรัฐมนตรี

สำหรับแนวทางเปิดกิจการต่างๆ นพ.โสภณระบุว่า ยึดหลักจาก สธ. เช่น วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้า บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ลดความเสี่ยงในผู้ให้บริการ เช่น แม่ค้าขายของต้องป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ป้องกันใบหน้า หลักคิดสำคัญคือจะไม่เพิ่มความเสี่ยง ควรจะเปิดกิจการที่มีความจำเป็นสูง มีความเสี่ยงที่พอรับได้ก่อน ทุกจังหวัดจะต้องมีบริการพื้นฐาน เช่น จังหวัด ก.เปิดร้านตัดผมได้ จังหวัด ข.เปิดไม่ได้ อาจจะส่งผลให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อใช้บริการ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเดินทาง

นพ.โสภณยังแนะนำว่า ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ตลาดน้ำ ตลาดนัดใหญ่ๆ ควรเปิด
แต่ต้องมีมาตรการลดความเสี่ยง เพราะหากไม่เปิดกิจการเหล่านี้ก็เท่ากับว่าเรากำลังจะเลิกกิจการเหล่านั้น ซึ่งคิดว่าเปิดได้แต่ต้องจัดมาตรการดีๆ ลดจำนวนคนในแต่ละช่วงเวลา ทำให้ดูมีคุณค่ามากขึ้น อาทิ ฝรั่งมาเที่ยว 100 คน อาจให้เข้าได้ทีละ 20 คน มีการจำกัดเวลา ให้สถานที่ตรงนั้นมีคนไม่หนาแน่นเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือ สวมหน้ากากอนามัย

ถือเป็นมุมมองที่น่าสนใจ เพราะทั้งเปิดโอกาสให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ และระมัดระวังการแพร่ระบาดไปพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นชีวิตวิถีใหม่หรือ “นิว นอร์มอล” ที่กำลังกล่าวถึงกัน ที่สำคัญที่สุดคือ สอดคล้องกับสภาพความจริงที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนเพราะประกอบอาชีพไม่ได้ ทำให้ไม่มีรายได้สำหรับยังชีพ ต้องต่อแถวรับบริจาค ภาระหน้าที่ของรัฐบาลคือจัดสมดุลระหว่างการระมัดระวัง และการเปิดโอกาสสำหรับการรีสตาร์ตในทุกระดับ เริ่มจากประชาชนระดับพื้นฐานที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image