ตระกูลโอสถานุเคราะห์ขานรับ ‘บิ๊กตู่’ สมาชิกร่วมลงขัน 100 ล้าน สู้วิกฤตโควิด-19
นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า ตระกูลโอสถานุเคราะห์ได้ตอบรับคำขอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำหนังสือขอความช่วยเหลือแนวทางการแก้ไขปัญหาโควิด-19 จาก 20 มหาเศรษฐีไทย อันมีตระกูลโอสถานุเคราะห์เป็นหนึ่งในนั้น โดยผ่านมูลนิธิโอสถานุเคราะห์ ภายใต้ความร่วมมือของสมาชิกตระกูลโอสถานุเคราะห์ทั้งสายตรงและที่สมรสกับสายสกุลอื่น ร่วมกันจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับจัดทำโครงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรายละเอียดโครงการที่จะให้ความช่วยเหลือด้านใดบ้าง สมาชิกตระกูลโอสถานุเคราะห์จะมีการหารือกันภายในเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ทั้งนี้ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
ก่อนหน้านี้ ทางมูลนิธิได้บริจาคเงิน 10 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนสนับสนุนการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และกลุ่มธุรกิจภายใต้ชื่อตระกูลโอสถานุเคราะห์ คือบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งด้านการป้องกัน การรักษา การเยียวยา และการสร้างขวัญกำลังใจ รวมเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ขณะที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้สนับสนุนงบประมาณสำหรับช่วยเหลือ ดูแลนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในด้านการเงินและสุขภาพ เช่น มาตรการผ่อนชำระค่าเทอม ทุนช่วยเหลือการศึกษา การทำประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 ให้แก่นักศึกษาและบุคลากร เป็นต้น
“มูลนิธิโอสถานุเคราะห์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 โดยสมาชิกตระกูลโอสถานุเคราะห์ที่ตั้งใจสานต่อเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษในการบรรเทาปัญหาสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนกิจการอันเป็นประโยชน์ของชาติ สมาชิกตระกูลโอสถานุเคราะห์จึงตอบรับคำขอของนายกฯ เพื่อสนองพันธกิจของมูลนิธิ”
นายเพชรกล่าวว่า การที่ประเทศชาติจะผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้นั้น รัฐบาลต้องมีนโยบายในการสร้างงาน และหาแนวทางแก้ไขปัญหา Micro Finance หรือระบบการเงินฐานรากเพื่อช่วยให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ในระยะยาว ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่อาจทำได้ตามลำพังโดยใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือกันของทั้งภาครัฐและเอกชนต่างๆ ซึ่งมูลนิธิโอสถานุเคราะห์ และกลุ่มธุรกิจของตระกูลโอสถานุเคราะห์ก็ยินดีให้ความร่วมมือ
“วิกฤตการณ์ครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้ประชาชนชาวไทย ตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วนได้แสดงถึงพลังของความเข้าใจและความร่วมมือกันฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ โดยคนไทยทุกคน ล้วนถือเป็นส่วนหนึ่งในการเสียสละช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประเทศชาติสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยได้แสดงน้ำใจไมตรี และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์”
