นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมีนาคม 2563 มีจำนวน 6,066 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 24,576 ล้านบาท โดย 3 ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร โดยช่วงทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่มากที่สุด คือ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,347 ราย คิดเป็น 71.66 %
ทำให้ ธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาส 1/2563 จำนวน 19,415 ราย เทียบกับไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้น 5,538 ราย คิดเป็น 40% และเทียบกับไตรมาส 1/2562 ลดลง 1,335 ราย คิดเป็น 6% โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหาร โดยไตรมาส 1/2563 มีทุนจดทะเบียนรวม 71,130 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส4/2562 ลดลง 50% และเทียบกับไตรมาส 1/2562 เพิ่มขึ้น 36%
นายวุฒิไกร กล่าวว่า ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนมีนาคม จำนวน 947 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน4,529 ล้านบาท 3 ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท 615 ราย คิดเป็น 64.94 %
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 1/2563มีจำนวน 3,169 ราย เทียบกับไตรมาส 4/2562 ลดลง 7,006 ราย คิดเป็น 69 % และเทียบกับไตรมาส 1/2562 ลดลง119 ราย คิดเป็น 4% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ปกติที่จะมีแนวโน้มของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจ ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร โดยมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในไตรมาส 1/2563 ทั้งสิ้น 14,456 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 4/2562 ลดลง 22,733 ล้านบาท คิดเป็น 61% เทียบกับไตรมาส 1/2562 เพิ่มขึ้น 4,460 ล้านบาท คิดเป็น 45% โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท 2,170 ราย คิดเป็น 68.47% ทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ทั่วประเทศ 762,229 ราย มูลค่าทุน 18.56 ล้านล้านบาท ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท 450,432 ราย คิดเป็น59.09 %
สำหรับการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนมีนาคม2563มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 67 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 21 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 46 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุน7,988 ล้านบาท เปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น 14 % นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 18 ราย เงินลงทุน 3,186 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 11 ราย เงินลงทุน 1,116 ล้านบาท และเนเธอร์แลนด์ 6 ราย เงินลงทุน 757 ล้านบาท ทำให้ไตรมาส 1/2563คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ 180 ราย มีเงินลงทุน 29,026 ล้านบาท
