ภายหลังพบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ด่านพรมแดนสะเดา จังหวัดสงขลา ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว มาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ จนต้องเปลี่ยนไปใช้ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา ในการเปิดรับแรงงานไทยเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า หลังจากด่านพรมแดนสะเดาปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เดิมมีกำหนดเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน ทั้งนี้ ได้พิจารณาร่วมกันกับหลายหน่วยงานแล้วเห็นว่า จะขยายระยะเวลาการปิดด่านพรมแดนสะเดาต่อไปอีกระยะ โดยจะยังคงเปิดให้บริการเข้า-ออกเฉพาะรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศเท่านั้น ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียซึ่งได้มีการลงทะเบียนล่วงหน้าเอาไว้นั้น จะให้คงใช้ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา ต่อไปอีก ทั้งนี้ เพื่อความสะดวก รวมถึงการแยกส่วนของการให้บริการในส่วนของรถบรรทุกสินค้าและบุคคลออกจากกัน ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนในการคัดกรองโรค ทำได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น ซึ่งจะได้ดำเนินการออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เพื่อประกาศให้ทราบโดยทั่วกันอีกครั้ง
นายจารุวัฒน์กล่าวอีกว่า ด่านพรมแดนสะเดาได้ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งหมดแล้ว โดยยังคงเปิดให้บริการในส่วนของรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ก็ยังคงใช้อาคารขาเข้าในการปฏิบัติหน้าที่ แม้จะยังไม่ไว้วางใจ โดยยังไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร โดยตลอด 10 วันของการเปิดรับแรงงานไทยจากมาเลเซียกลับเข้ามานั้น มีผู้ที่มีไข้และมาจากพื้นที่เสี่ยงมากกว่า 70 คน ทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสารคัดหลั่งแล้วพบว่าให้ผลเป็นลบทั้งหมด และผู้ที่เดินทางกลับเข้ามากลุ่มแรก จะเริ่มกักตัวครบ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้