กกพ.ผนึก3การไฟฟ้าฯกำเงิน2หมื่นล้านหนุนรัฐบาลลดค่าไฟปชช.
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงาน กกพ.) ในฐานะ โฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 29 เมษายน มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มเติม หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา
โดยที่ผ่านมา กกพ. ได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พิจารณาแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาสนับสนุนมาตรการดังกล่าว โดยจะมาจากเงินบริหารค่าไฟฟ้าที่รวบรวมได้จากการกำกับฐานะการเงิน เงินส่งคืนจากการลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผน เงินค่าปรับที่เกิดขึ้นจากการบริหารสัญญาของผู้ผลิตไฟฟฟ้าเอกชน ในช่วงปี 2557-2562 รวมทั้งเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97 (1) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน
อย่างไรก็ตาม กกพ.ขอวิงวอนให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็นเพื่อเป็นการช่วยประเทศชาติในการประหยัดทรัพยากรและเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการผลิตกระแสไฟฟ้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ตามมติครม.เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่รับทราบมาตรการกระทรวงพลังงานในการลดค่าไฟช่วยเหลือประชาชน 3 เดือน(เมษายน-มิถุนายน2563) แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ยกเว้นค่าไฟให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 150 หน่วย 2.มาตรการลดค่าไฟ โดยผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 800 หน่วยจะจ่ายค่าไฟฟ้ายึดตามบิลค่าไฟเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนที่ต่ำสุดในช่วง 3 เดือน แต่หากใช้ไฟ800-3,000หน่วย จะจ่ายค่าไฟตามบิลเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนต่ำสุด และส่วนที่เพิ่มขึ้นให้จ่าย 50% ของค่าไฟ และหากใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วย จะจ่ายค่าไฟตามบิลเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนต่ำสุด และส่วนที่เพิ่มขึ้นให้จ่าย 70% ของค่าไฟ โดยกกพ.คาดว่าจะใช้วงเงินดูแลเพื่อลดค่าไฟ 20,000 ล้านบาท จากวงเงินที่กกพ.มีอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือกกพ.ได้หารือกับ 3 การไฟฟ้าเพื่อจัดหาเพิ่มเติมเพียงพอแล้ว