สธ.ชี้ แนวโน้ม “โควิด-19” ดีขึ้น เหลือเพียงเฝ้าระวังคนไทยกลับจากต่างประเทศ
โควิด-19 เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณเอี่ยม ศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มว่าผู้ป่วยรายใหม่จะลดลง และอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ประชาชนต้องดำเนินตามมาตรการ ป้องกันโรคต่างๆ ต่อไปให้เข้มแข็ง แม้ว่าจะเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการบางอย่างลงแล้ว เช่น การผ่อนปรนให้เปิด 6 กิจกรรม/กิจการ ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้
นพ.โสภณกล่าวว่า การดำเนินตามมาตรการป้องกันโรคเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสัปดาห์ที่ 18 ช่วงปลายเดือนเมษายน หากย้อนกลับไปเมื่อ 4 สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-วันที่ 4 เมษายน เป็นช่วงที่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งในสัปดาห์เดียวพบผู้ป่วยกว่า 727 ราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อในผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าที่อยู่ในระหว่างการติดตามมากถึง 329 ราย จากการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลทำให้จำนวนผู้ป่วยทั้งหลายลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง
นพ.โสภณกล่าวว่า การเดินทางกลับมาจากต่างประเทศของคนไทยจะต้องผ่านการลงทะเบียนที่สถานทูตไทยในต่างประเทศ ประกอบด้วย ใบรับรองแพทย์ที่แสดงให้เห็นถึงความปลอดโรค อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางกลับมาแล้วก็ยังตรวจพบผู้ป่วยอยู่ จึงเห็นได้ว่ามาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อจากต่างประเทศยังมีความสำคัญอยู่ ในขณะที่การแพร่เชื้อในประเทศมีอัตราที่น้อยมาก โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 28 เมษายน ในการขยายเวลาห้ามเครื่องบินพาณิชย์นำผู้โดยสารจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยต่อไปอีก 1 เดือน มีผลถึงวันที่ 31 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม คนไทยที่ลงทะเบียนถูกต้องกับทางสถานทูตก็จะมีข้อยกเว้นพิเศษในการเดินทางกลับประเทศไทยได้
“จากพบว่าการเดินทางกลับมาจะมาพร้อมกับเชื้อไวรัส เช่น ประเทศอินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย ตุรกี ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีการระบาดที่รุนแรง ดังนั้น คนไทยที่กลับมาจะต้องเข้าสู่สถานที่กักกันที่รัฐบาลจัดไว้ (state quarantine) จนครบ 14 วัน” นพ.โสภณกล่าว
