นายนิติพันธุ์ ครุธทิน ตัวแทนชมรมผู้ประกอบการร้านคราฟต์เบียร์ เปิดเผยว่า การที่รัฐผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบออนไลน์และซื้อกลับบ้านตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมนั้น เป็นข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการเรียกร้องไป เพราะหากไม่เปิดให้ขายเลยทำให้ลูกจ้างธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบมาก ซึ่งขณะนี้เรียกแม่ครัวและลูกจ้างบางส่วนกลับมาประจำการที่ร้าน เพื่อเปิดขายในวันที่ 3 พฤษภาคม ไม่ได้หวังว่ายอดขายจะสูงมาก ขอแค่ให้มีเงินจ่ายค่าลูกน้อง ไม่ต้องปลดคนงานออกก็พอแล้ว
“ขณะนี้เตรียมข้อมูลให้ลูกค้า ว่ามีผลิตภัณฑ์เบียร์ใหม่ๆ ที่นำเข้าอย่างไรบ้าง โดยเน้นในการส่งออนไลน์ ดำเนินการโดยร้านเอง เพราะเบียร์ไม่สามารถใช้บริการจากแกร็บฟู้ด หรือไลน์แมนได้ เนื่องจากผิดกฎหมาย แต่ละร้านต้องอาศัยช่องทางการขาย และการส่งของตนเอง ขายผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านทางเฟซบุ๊ก” นายนิติพันธุ์กล่าว
นายนิติพันธุ์กล่าวต่อว่า หลังจากผ่อนปรนให้ขายได้ในวันที่ 3 พฤษภาคม กลุ่มผู้ประกอบการขอรอดูก่อนว่ายอดขายเป็นอย่างไร โดยจะยังไม่ไปร้องเรียนยังกระทรวงการคลัง มีเพียงอยากไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุข ถึงการบรรจุเบียร์สดในภาชนะเพื่อขายให้กับประชาชน เพราะช่วงนี้นั่งทานที่ร้านไม่ได้ ดังนั้นการขายเบียร์สดจะมีปัญหา จะขายได้เพียงเบียร์บรรจุขวดเท่านั้น
นายอาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์ ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายคราฟต์เบียร์ กล่าวว่า เมื่อรัฐผ่อนปรนให้ขายเบียร์ได้ในวันที่ 3 พฤษภาคม ช่วยระบายสต๊อกเบียร์นำเข้าจากผู้ประกอบการมีอยู่ 3 ล้านลิตรเสียหายน้อยลง จากเดิมคาดว่าจะเสียหายประมาณ 5 แสนลิตร เพราะเบียร์มีอายุในการเก็บไม่นาน การเคลมภาษีกับรัฐจะน้อยลง โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม หารือกับนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ถึงการเคลมภาษีจากเบียร์หมดอายุ ซึ่งเดิมกว่าจะได้เงินคืนใช้เวลาประมาณ 1 ปี ทางสรรพสามิตช่วยดูแลให้เร็วขึ้น ด้วยการให้เคลมเป็นเครดิตภาษี สำหรับการนำเข้าในครั้งต่อไป เรื่องนี้จะช่วยผู้ประกอบการได้มากขึ้น
นายอาชิระวัสส์กล่าวว่า หารือในกลุ่มผู้ประกอบการเบียร์เมื่อเริ่มเปิดขายออนไลน์แล้ว ยินดีจะปฏิบัติตามแนวทางการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ผู้ประกอบการจะมีแคมเปญออกมา เพื่อกระตุ้นให้คนดื่มมีจิตสำนึก social distancing เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นลักษณะการขอความร่วมมือให้เกิดความรับผิดชอบจากสังคมจากคนดื่ม เมื่อรัฐบาลผ่อนผันแล้ว ต้องช่วยกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น
