ชงคดีนายทุนรุกป่าเขาค้อยึดพื้นที่ 436 ไร่ให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ

ชงคดีนายทุนรุกป่าเขาค้อยึดพื้นที่ 436 ไร่ให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2563 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ศปป.4 กอ.รมม. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคณะเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า โดยการบุกจับการบุกรุกป่าเขาค้อพร้อมยึดพื้นที่ป่าจำนวน 436 ไร่ที่ถูกบุกรุก ขณะเดียวกันยังพบหลักฐานพาดพิงถึงอดีตสมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์บางราย และเสี่ยร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่งที่ จ.เพชรบูรณ์ มีเอี่ยวเป้นนายทุนอยู่เบื้องหลังว่า ภายหลังการจับกุมและตรวจยึดทวงคืนผืนป่าบริเวณนี้จากนายทุนแล้ว ปรากฏว่าในซีกฝั่งของนายทุนเริ่มมีการเคลื่อนไหวกดดันและพยายามจะแทรกแซงการสืบสวนสอบสวน ประกอบกับเป็นคดีรายใหญ่มีพื้นที่ตรวจยึดเกิน 100 ไร่ทั้ง 2 ราย ซึ่งเข้าหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษจึงได้มีการประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 6 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งได้การตอบรับพร้อมจะรับเป็นคดีพิเศษแล้ว

“สำหรับเคสนี้เป็นการปฏิบัติการตามคำร้องเรียน แต่ทั้งนี้หากเป็นเคสอื่นคดีใหญ่ๆ ในการปฏิบัติการต่อไปจะเตรียมการให้ทางดีเอสไปรับคดีตั้งแต่แรก โดยไม่ต้องส่งคดีให้กับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ และขณะทางในทางการข่าวก็ยังพบว่ายังมีนายทุนที่มีการบุกรุกในแบบเดียวกันนี้อีกหลายแห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน” พ.อ.พงษ์เพชรกล่าว

พ.อ.พงษ์เพชรกล่าว ส่วนกรณีต้นยางนาขนาดใหญ่อายุราว 100 ปี ที่ถูกสุมไฟบริเวณโคนต้นเพื้อต้องการเอาน้ำมันยางและให้ยืนต้นตาย เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่บุกรุกอย่างเต็มที่แถมเมื่อต้นยางโค่นล้มแล้วก็จะมีการชักออกไปแปรรูปไม้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบยังหลงเหลืออีกราว 12 ต้นและกระจายอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ขณะนี้ได้หารือกับทางผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก (สจป.4 พิษณุโลก) เพื่อหาวิธีการอนุรักษ์ต้นยางนาเหล่านี้ไว้ให้ได้ เพราะกว่าต้นยางนาจะโตได้ขนาดนี้ใช้ระยะเวลาเป็น 100 ปี และยังเป็นต้นแม่พันธุ์ได้อีกด้วย จึงสมควรจะเร่งฟื้นฟูโดยทาง ผอ.สจป.ที่ 4 ได้ประสานให้ทางรุกขกรหรือหมอต้นไม้ให้เข้าไปช่วยดูแลฟื้นฟูต้นยางทั้งหมดนี้ ให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม

Advertisement

หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกบริเวณนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถทวงกลับคืนมาได้นั้น ได้มีหารือกันในเบื้องต้นเพื่อจะให้มีการเร่งปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนมา เพราะจากการตรวจสอบพื้นที่ป่าดังกล่าว มีการเสนอจัดที่ดินบริเวณเข้าโครงการ คทช.ด้วย จึงจะให้กรมป่าไม้มีการทบทวนเพื่อให้กันพื้นที่บริเวณนี้ออกเพื่้อปลูกป่าทดแทน ส่วนชาวบ้านที่เช่าที่ดินนายทุนเพื่อเพาะปลูกทำการเกษตรนั้น เบื้องต้นอาจต้องผ่อนปรนโดยหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยก็คงต้องให้ออกจากพื้นที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image