‘อนุสรณ์’คาดแรงงานภาคบริการ-การค้า ตกงานไม่ต่ำกว่า 2 ปี

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานสถาบันปรีดี พนมยงค์ เปิดเผยว่า ปัญหาวิกฤติเลิกจ้างและการว่างงานจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นในไตรมาสสองต่อเนื่องไตรมาสสามทั้งในไทยและหลายประเทศทั่วโลก สถานการณ์วิกฤติเลิกจ้างและการว่างงานจะยืดเยื้อไปอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี การทำงานหรืออาชีพบางอย่างจะค่อยๆหายไปจากระบบ ขณะที่การทำงานหรืออาชีพบางอย่างจะขยายตัวเพิ่มขึ้นพร้อมเกิดอาชีพใหม่ๆ แต่การเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานจะน้อยกว่าตำแหน่งงานที่หายไปมากอันเป็นผลจากการหดตัวลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม แรงงานมนุษย์ต้องปรับตัวไม่เช่นนั้นจะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์และสมองอัจฉริยะในอัตราเร่งและกลายเป็นผู้ไม่มีงานทำไม่มีรายได้ และกระบวนการปรับตัวในสถานการณ์แบบนี้ต้องอาศัยบทบาทของรัฐการกำหนดยุทธศาสตร์

ทั้งนี้  การสนับสนุนทางด้านงบประมาณและการส่งเสริมการดำเนินการงานด้านต่างๆของรัฐในการปรับทักษะของคนทั้งสังคมผ่านระบบการศึกษา การฝึกอบรม และโครงการฝึกปฏิบัติ โครงการและแผนงานต้องทำเป็นโครงการขนาดใหญ่โดยรัฐเองหรือสนับสนุนภาคเอกชนและธุรกิจอุตสาหกรรมดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากกรณีพื้นฐาน อาจจะมีคนว่างงานในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคนอันเป็นผลจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้จะยังมีการทำงานต่ำระดับและว่างงานแฝงจำนวนมากอีกด้วย กรณีเลวร้ายสุดการว่างงานอาจแตะระดับ 28% ของกำลังแรงงาน 38.41 ล้านคน ทำให้คนว่างงานและไม่มีงานทั่วประเทศเกือบ 11 ล้านคน สำหรับแรงงานในภาคบริการและการค้าที่มีกำลังแรงงานอยู่ 18.08 ล้านคนอาจจะว่างงานไม่ต่ำกว่า 30-60% เป็นระยะเวลายาวนานไม่ต่ำกว่า2 ปีนับจากต้นปี  2563 ซึ่งคนกลุ่มนี้จะต้องไปฝึกทักษะใหม่เพื่อประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน

สำหรับงานบางอย่างที่แรงงานไทยไม่ค่อยอยากทำหรือหาแรงงานไทยมาทำยากและต้องอาศัยแรงงานต่างด้าว หากปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานการทำงานที่ดีขึ้น แรงงานไทยน่าจะมีความประสงค์ในการทำงานมากขึ้นภายใต้สถานการณ์การว่างงานจำนวนมาก และเป็นการควบคุมไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติข้ามพรมแดนซึ่งจะทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (Covid-19) มีความยุ่งยากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image