เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 จากกรณีเจ้าหน้าที่ เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ บ้านปะการือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนปะทะกับกลุ่มคนร้ายเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คนร้ายเสียชีวิต 3 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนได้จำนวน 3 กระบอก และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ-110 สีขาว 1 คัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ได้รายงานผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากวัตถุพยานที่ตรวจยึดได้ พบมีความเชื่อมโยงเคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่มาแล้ว 22 คดี นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติคนร้ายที่เสียชีวิต ทั้ง 3 ราย มีหมายจับรวมกันถึง 10 หมายเกี่ยวข้องคดีสำคัญในพื้นที่หลายคดี เช่น ระเบิดเมืองภูเก็ตระเบิดบิ๊กซี และปล้นร้านทองที่นาทวี และผลการตรวจพิสูจน์อาวุธที่ยึดได้ พบเคยใช้ก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน โดยเฉพาะปืนเล็กยาว AK-102 หมายเลขปืน 101160757 ซึ่งเป็นปืนของ นายอะหวัง เดนดาหยัด กำนันตำบลเปียน ได้เบิกยืมมาใช้ปฏิบัติราชการ และถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตก่อนชิงปืนไป เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2558
โดยคนร้ายนำปืนกระบอกนี้ไปใช้ก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนรวม 22 คดี ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตถึง 42 ราย ที่สำคัญใช้ก่อเหตุยิงประชาชนประกอบอาชีพรับซื้อน้ำยางเสียชีวิต 2 ราย ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 , เหตุการณ์ยิงถล่มจุดตรวจกอแลปิเละ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคทม 2562 ยิง/ระเบิด อส.ชคต. นาประดู่ เสียชีวิต 2 ราย อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 15 กันยายน 2562 เป็นต้น
“จากประวัติของคนร้ายทั้ง 3 ราย ประกอบกับผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานที่ตรวจยึดได้ สามารถบ่งชี้ให้เห็นพฤติกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุละเมิด กฎหมายมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ทำให้มีสถานะเป็นอาชญากร รัฐจำเป็นต้องเข้าบังคับใช้กฏหมายเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มิใช่การปฏิบัติการทางทหารกับคู่สงครามดังที่กลุ่ม PerMas และเครือข่ายแนวร่วมในพื้นที่พยายามกล่าวอ้าง
