จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นทะลุ 250,000 คนแล้ว แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกจะลดน้อยลงก็ตาม ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อก็สูงกว่า 3,600,000 คนแล้วเช่นกัน
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3,645 ราย และมีติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 76,478 คน โดยยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกขณะนี้สูงถึง 251,791 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 3,640,167 คน และมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วที่ 1,192,842 คน
สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 69,564 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตในหนึ่งวันเพิ่มขึ้น 966 ราย ตามด้วยอีตาลี 29,079 อังกฤษ 28,734 สเปน 25,428 และฝรั่งเศส 25,201 โดยในภาพรวมแล้วถือว่าทุกประเทศมีจำนวนผู้เสียชีวิตลดน้อยลง
ขณะที่ในส่วนของผู้ติดเชื้อ สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อทะลุ 1,210,907 คน โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 22,785 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามด้วยสเปน 248,301 อิตาลี 211,938 อังกฤษ 190,584 ฝรั่งเศส 169,462 เยอรมนี 166,151 รัสเซีย 145,269 ตุรกี 127,659 และบราซิล 107,844
ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงที่สุดในหนึ่งวันที่ผ่านมายังคงเป็นสหรัฐ ตามด้วยรัสเซียที่ 10,581 บราซิล 6,697 อังกฤษ 3,985 อินเดีย 3,932 และเอกวาดอร์ 2,343
ตัวเลขขององค์การอนามัยโลก(ฮู)ชี้ให้เห็นว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกสูงกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัดเมื่อปี 2561 ที่มีผู้เสียชีวิตราว 140,000 คน ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ป่วยหนักเนื่องจากเป็นโรคหวัดในแต่ละปีก็อยู่ที่ราว 3-5 ล้านคน
อย่างไรก็ดีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ห่างไกลจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปนในปี 2461 ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อราว 500 ล้านคนทั่วโลก โดยผู้ป่วยราว 10% เสียชีวิต แม้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะต่ำกว่าผลกระทบของการแพร่ระบาดใหญ่ที่แท้จริงก็ตาม
