ก.พลังงานกู้วิกฤตราคาปาล์ม มอบกฟผ.เร่งซื้อซีพีโอที่เหลือ3.7หมื่นตันผลิตไฟฟ้า เตรียมซื้อ บี100 ล่วงหน้าเพื่อดูดซับสต็อก
กระทรวงพลังงานประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือแก้สถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำจากสถานการณ์โควิดและฤดูกาลที่ผลผลิตออกมามาก มอบกฟผ.เร่งรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) ที่เหลือ37,550 ตันเพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าให้ครบตามมติ ครม. พร้อมให้กรมธุรกิจพลังงานไปพิจารณาหากลไกในการดูดซับสต็อก บี100 ล่วงหน้า
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางในการช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำในปัจจุบัน โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) ที่เหลือให้ครบตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานโดย กฟผ. จัดซื้อซีพีโอ จำนวน 200,000 ตัน เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน กฟผ. ได้รับซื้อไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง รวม 162,450 ตัน คงเหลืออีก 37,550 ตัน ทั้งนี้เพื่อเร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือให้ครบ 200,000 ตัน เพื่อเร่งดูดซับระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มอบให้กรมธุรกิจพลังงานไปประเมินเพื่อหากลไกในการดูดซับสต็อกไบโอดีเซล (บี100) ล่วงหน้า เพื่อนำไปใช้ในการผลิต บี10 ตามนโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของกระทรวงพลังงาน เพราะขณะนี้ยอดการใช้ดีเซลในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เริ่มกลับมาอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถได้ข้อสรุปว่าจะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือกับ พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งได้ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันในพื้นที่ปฏิบัติจริง โดยได้บูรณาการความร่วมมือในพื้นที่เพื่อพิจารณาถึงสาเหตุว่ามีสิ่งใดเป็นกลไกหลักที่ทำให้ปาล์มน้ำมันราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อจะได้นำมาเป็นแนวทางในการวางมาตรการช่วยแก้ปัญหาได้ในโอกาสต่อไป
“ที่ประชุมมีแนวทางหลากหลายในการช่วยแก้ปัญหาผลผลิตราคาปาล์มที่ตกต่ำกว่าปกติ เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่มีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมามากในช่วงมีนาคม-เมษายน และประกอบกับการบริโภคพลังงานที่ลดลงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด”นายสนธิรัตน์กล่าว
