นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้หารือขั้นตอนระเบียบ ปัญหาและอุสรรค ของการลงทะเบียนใหม่ของเกษตรกร ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับ หน่วยงานที่เป็นนายทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมหม่อนไหม การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สำนักงานอ้อยและน้ำตาล และการยาสูบแห่งประเทศไทย เพื่อรองรับการเป็นเกษตรกร รับเงินเยียวยา เกษตรกรจากรัฐบาลจำนวนเงิน 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน ที่ระเบียบปฏิบัติในการขึ้นทะเบียน กำหนดไว้ต้องมีพืชอยู่ในที่ดิน 15 วัน จึงจะสามารถลงทะเบียนได้ แต่ขณะนี้ ประสบภัยแล้ง ปริมาณน้ำน้อย ยังไม่มีฝนตก ส่งผลให้ชาวนายังไม่สามารถทำนาได้
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ชาวนารายใหม่ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเลยในอดีตที่ผ่านมา แต่ปีนี้อยากทำนา อยากได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล แต่ไม่มีน้ำปลูกข้าว ส่งผลให้ขาดคุณสมบัติ ทางกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะผู้ที่ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น ก่อนส่งรายชื่อและทะเบียนทั้งหมดให้กระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อน ตกลงจะรับเอกสารหลักฐานทั้งหมดของชาวนา หรือเกษตรกรรายใหม่ทั้งหมดไว้ หากขาดเอกสารหลักฐานต้องเร่งแก้ไข หาเอกสารเพิ่มเติมให้ครบภายใน 15 วัน
“กรณีไม่มีพืช หรือยังไม่มีข้าวในนาครบ 15 วัน จะมีการอนุโลมให้ชาวนาไปรีบปลูกข้าว เพื่อให้เอกสาร หลักฐานครบ ตามระเบียบราชการ เพราะหลังจากส่งเอกสาร ทะเบียนเกษตรกร ให้กระทรวงการคลังตรวจสอบความซ้ำซ้อนไปแล้วจำนวน 8.3 ล้านราย เชื่อว่าจะต้องดำเนินการตรวจสอบและส่งข้อมูลให้คลังตรวจสอบอีกประมาณ 3-4 ครั้ง หากชาวนารีบปลูกข้าว หรือปลูกข้าวครบ 15 วัน ซึ่งอาจจะเป็นหลังวันที่ 15 พฤษภาคม ก็ถือว่าดำเนินการทันเวลา ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนด รอเพียงข้าวงอกครบ 15 วันเท่านั้น ครบวันไหน ถือว่าคุณสมบัติครบเป็นเกษตรกรวันนั้น และจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินเยียวยาเช่นกัน” นายอนันต์กล่าว
