รวบเชฟชาวไทยและชายรัสเซียขนกัญชาฝ่าเคอร์ฟิวเกือบ 300 กิโลกรัม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมหาสารคามว่า เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออกตรวจปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อ.เมืองมหาสารคาม ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ธนิต เหรียญเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม นายเนตรสุเทพ สุ่มมาตย์ นายอำเภอเมืองมหาสารคาม ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ นระทัด รอง สวป.สภ.เมืองมหาสารคาม นายณัฐการ สุรมณี ปลัดอำเภอเมืองมหาสารคาม เจ้าหน้าที่สายตรวจ สารวัตรกำนัน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ต.ท่าสองคอน ออกลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุร้ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในช่วงการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเมื่อมาถึงบริเวณหน้าศูนย์ฮอนด้า ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่พบรถกระบะ สี่ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 4982 พิจิตร จอดอยู่บริเวณข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พบชายไทยและชายชาวต่างชาติ อยู่ในรถ ทั้งคู่มีท่าทางพิรุธ จึงได้ทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว และพบว่ามีบริเวณกระบะหลัง มีกล่องพลาสติกสีฟ้าหลายใบ โดยทุกใบมีน็อตล็อคเอาไว้แน่นหนา เป็นที่น่าสงสัย ตรวจสอบพบว่าภายในมีกัญชาอัดแท่งบรรจุอยู่ จึงได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองมหาสารคาม

โดยผู้ต้องหาทั้งสองราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายกฤษดา ศรีทอง อายุ 27 ปี ราษฏร ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร และ Mr.TARTYKOV KIRILl อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมด้วยของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 296 แท่ง มีน้ำหนักเกือบ 300 กิโลกรัม

พ.ต.ท.วุฒิ ศรีวิลัย รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่า เดินทางมาจากจังหวัดพิจิตร มาด้วยกัน 3 คน เพื่อเดินทางไปที่ จ.นครพนม โดย 1 ใน 3 ได้ลงจากรถหายไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะลาดตระเวนมาพบ ซึ่งทั้งสามรู้จักกันไม่นานประมาณ 1 เดือน เนื่องจาก Mr.TARTYKOV ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เพราะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จึงต้องอยู่ในเมืองไทย ส่วนนายกฤษดา ทราบว่าเป็นเชฟอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ก็ไม่สามารถกลับไปทำงานได้ มารู้จักกับชายคนที่หลบหนีไปได้ ชักชวนกันมา ซึ่งทั้งผลตรวจปัสสาวะทั้งคู่ มีสารเสพติด

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ชายที่หลบหนีไปได้นัดหมายผู้ต้องหาทั้งสองรายให้รอที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่จ.นครพนม โดยขับมาซึ่งบรรทุกสิ่งของมาเต็มท้ายกระบะเพื่อเดินทางกลับจ.พิจิตร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ อยู่ ๆ ชายคนที่หลบหนี ได้ขอลงจากรถและหายไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาพบ และถูกจับกุมในที่สุด

Advertisement

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ออกนอกเคหะสถานในเวลาเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00-04.00น. โดยไม่รับการยกเว้นหรือมีเหตุผลจำเป็น และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ด่านแก้ว พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนชายคนที่หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนและดำเนินการออกหมายจับในเร็ว ๆ นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image