ศึกษาตั้งกองทุนอุ้มโรงแรมเอสเอ็มอีสกัดต่างชาติฮุบช่วงโควิด

ศึกษาตั้งกองทุนอุ้มโรงแรมเอสเอ็มอีสกัดต่างชาติฮุบช่วงโควิด ดันอิควิตี้ฟันด์ซื้อ5-7ปี จากนั้นจะเปิดให้เจ้าของเดิมซื้อคืน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาสถานการณ์โรงแรมของผู้ประกอบการไทย ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทยอยปิดกิจการชั่วคราว บางแห่งรับสภาพภาระการขาดทุนไม่ไหว เริ่มมีแนวคิดขายกิจการ ตนจึงเสนอตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแก้ปัญหาโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด -19 ขึ้น คณะทำงานมาจากหลายภาคส่วน อาทิ ส.อ.ท. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สถาบันการเงิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีดีแบงก์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ เนื่องจากกังวลว่า ผู้ประกอบการไทยบางราย จะขายให้กับนักลงทุนต่างชาติในราคาต่ำ และต่อไปนักลงทุนต่างชาติ อาจหันมาจ้างแรงงานประเทศตัวเองมากกว่าคนไทย รวมทั้งจะได้เป็นเจ้าของที่ดินทำเลดีอีกด้วย

“ตอนนี้หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า เจ้าของโรงแรมไทย ที่เริ่มรับสภาพการขาดทุนไม่ไหว จะยอมขายกิจการโรงแรมในราคาที่ถูกให้กับนักลงทุนต่างชาติ ที่อาศัยช่วงวิกฤติโรคโควิด -19 กดราคาซื้อโรงแรม ได้ทั้งกิจการโรงแรม ได้เป็นเจ้าของที่ดิน ทำเลสวยๆ เพราะส่วนใหญ่ทำเลดี ที่ผ่านมามีกระแสข่าว คนต่างชาติกว้านซื้อโรงแรมไทย โดยใช้นอมินีคนไทยเข้ามาซื้อแทน เพราะกฎหมายไทยยังไม่เปิดให้ต่างชาติมาเข้าถือหุ้นเกิน 49% อีกประเด็นที่น่ากังวล ต่อไปเจ้าของโรงแรมต่างชาติ อาจเน้นการจ้างงานคนในประเทศตัวเองมากขึ้น ทำให้แรงงานไทยเสียโอกาส”นายสุพันธุ์กล่าว

นายสุพันธุ์กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ได้ประชุมคณะทำงานครั้งแรก เบื้องต้นได้ข้อสรุปเพื่อนำไปพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ต่อไปว่า จะยื่นข้อเสนอให้โรงแรมไทย โดยเฉพาะที่เป็นเอสเอ็มอี มีขนาดห้องพักไม่เกิน 200 ห้อง ที่ต้องการรับความช่วยเหลือ แจ้งความประสงค์เข้ามา เพื่อเปิดให้กองทุนรวมตราสารทุน หรืออิควิตี้ฟันด์ ที่สนใจลงทุนกิจการโรงแรม เข้ามาลงทุน ส่วนหนึ่งผู้ประกอบการไทย จะได้การถ่ายทอดประสบการณ์การบริหารงานด้วย โดยการเข้ามาซื้อหุ้นดังกล่าว จะกำหนดเงื่อนไขไว้ อาทิ ให้ซื้อหุ้นได้ไม่เกิน 75% กำหนดระยะเวลาการถือหุ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเดิม เข้ามาซื้อหุ้นคืนได้ เช่น 5-7 ปี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น ต้องนำข้อเสนอจากคณะทำงานฯ ที่จะมานำเสนอในที่ประชุมครั้งหน้า เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

รายงานข่าวจากภาคธุรกิจโรงแรม แจ้งว่า หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศไทยไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในภาวะที่ไม่มีผู้ใช้บริการได้ ล่าสุดมีโรงแรมชื่อดังในกรุงเทพฯ แจ้งปิดกิจการชั่วคราว นับจากวันที่ 26 มีนาคม 2563 แล้ว 27 แห่ง โดยแต่ละแห่งได้แจ้งว่า จะเปิดให้บริการอีกครั้งตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนกันยายนนี้ ขณะที่จังหวัดภูเก็ต เบื้องต้นมีโรงแรมแจ้งปิด 52 แห่ง ส่วนใหญ่เริ่มปิดวันที่ 1 เมษายนนี้ และแต่ละแห่งจะเปิดอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคมนี้ และเริ่มมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมบางราย เริ่มรับภาระไม่ไหว มีแนวคิดจะขายกิจการ สำหรับสถิติจำนวนโรงแรมล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ประเทศไทยมีจำนวนโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทั่วประเทศ 32,564 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องทั้งหมด 1,254,168 ห้องพัก โดยอัตราส่วนห้องพัก 1 ห้องใช้พนักงานโรงแรม 1.3 คน จึงมีพนักงานโรงแรมทั้งหมด 1,630,419 คน คาดว่า กว่า 95% ของโรงแรมทั้งหมด หรือคิดเป็น 30,936 แห่ง จะไม่มีรายได้ เพราะการระบาดของโควิด-19 ในช่วงนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image